หน้าแรก Networking & Wireless Access Point รายงานผลสำรวจเงินเดือนของผู้วางสายเคเบิล (USA) ประจำปี 2020 ออกมาแล้ว

รายงานผลสำรวจเงินเดือนของผู้วางสายเคเบิล (USA) ประจำปี 2020 ออกมาแล้ว

แบ่งปัน

ปีนี้ถือเป็นปีที่สองที่ทาง Fluke Networks ร่วมมือกับทางนิตยสาร Cabling Installation and Maintenance ในการสำรวจข้อมูลเกี่ยวกับเงินเดือนของผู้ที่ประกอบอาชีพด้านระบบสายเคเบิล

โดยเราทำการสำรวจเมื่อปลายปี 2019 ก่อนที่จะเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคร้ายแรงในขณะนี้ ตอนนั้นเราได้วิเคราะห์ข้อมูลเรียบเรียงออกมาเป็นผลสำรวจเรียบร้อย แต่จากนั้นไม่นานทางการของหลายประเทศได้ออกคำสั่งให้กักตัวอยู่แต่ภายในบ้าน รวมทั้งอัตราการว่างงานก็พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทำให้เรากลัวว่าการเผยแพร่ผลสำรวจภายใต้สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปเช่นนี้จะทำให้ไม่ตรงกับความเป็นจริง อย่างไรก็ตาม มีอีกหลายท่านที่มองว่าข้อมูลที่ได้นี้ยังนำมาเชื่อมโยงได้อยู่ และจะมีประโยชน์เพิ่มขึ้นมากเมื่อธุรกิจต่างๆ กลับมาสู่ภาวะปกติในระดับหนึ่ง ถึงแม้จะยังไม่ชัดเจนว่าเราจะได้กลับมาสู่ความเป็นปกติเมื่อไร แต่ทาง Fluke ก็ได้ตัดสินใจเผยแพร่ผลการสำรวจนี้เพื่อให้ทุกคนสามารถนำไปใช้ประโยชน์ตามที่เห็นสมควร

เป้าหมายของโครงการนี้คือการให้ข้อมูลแก่ทั้งคนทำงานและผู้จ้างงานในตลาดเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อค่าจ้าง โดยสำหรับผู้รับจ้างแล้ว ข้อมูลนี้จะทำให้เข้าใจว่าระดับการศึกษา ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญของพวกเขาจะนำไปสู่การจ้างงานที่ดีขึ้นได้อย่างไร ส่วนสำหรับผู้ว่าจ้าง ข้อมูลนี้จะทำให้พวกเขาวางโครงสร้างค่าตอบแทนที่แข่งขันในตลาดได้ และเข้าใจได้ว่างานด้านไหนในตลาดที่ทำกำไรได้มากที่สุด

สิ่งที่ค้นพบ

ข้อมูลสำคัญที่เห็นได้ชัดเจนคือ ค่าตอบแทนโดยรวมนั้นเพิ่มขึ้นจากการสำรวจประจำปี 2019 เป็นสัดส่วน 2.7% รวมทั้งเรายังเห็นการเติบโตด้านอื่นๆ ของตลาดโดยรวมด้วย สัดส่วนของผู้รับการสำรวจที่รายงานว่าตนเองทำงานประจำนั้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จาก 83% ขึ้นเป็น 85% ทำให้สัดส่วนคนที่ทำงานพาร์ทไทม์และสัญญาจ้างลดลง ส่วนปริมาณชั่วโมงที่ทำงานเกินเวลาของพนักงานที่ได้รับการสำรวจนั้นรายงานเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 207 ชั่วโมงในปี 2019 ขึ้นมาเป็น 227 ชั่วโมงในปี 2020 แต่พนักงานที่รับเงินเดือนประจำกลับรายงานว่าเงินโบนัสเฉลี่ยที่ตัวเองได้ลดลงจาก 11% มาอยู่ที่ 10%

ผู้ที่ได้รับการสำรวจจำนวน 12 เปอร์เซ็นต์ได้ย้ายไปทำงานบริษัทใหม่ โดยเจ้าหน้าที่ระดับผู้บริหารและวิศวกรมีอัตราการย้ายงานมากที่สุด ส่วนผู้จัดการโครงการย้ายงานน้อยที่สุด สัดส่วนเพศหญิงที่ได้รับการสำรวจครั้งนี้ยังต่ำมากเหมือนกับปีที่แล้ว คือมีแค่ 4% ซึ่งต่ำกว่าสัดส่วน 9.9% จริงของทั้งตลาดแรงงานด้านนี้

ทาง Fluke ยังสำรวจค่าจ้างที่แยกตามภูมิภาคเทียบกับค่าเฉลี่ยทั้งสหรัฐฯ ด้วย ผลที่ออกมาไม่น่าแปลกใจ กล่าวคือ ในพื้นที่ที่ค่าครองชีพสูง (บริเวณตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ และรัฐแคลิฟอร์เนีย) จะมีค่าจ้างแพงที่สุด ขณะที่พื้นที่ที่ค่าครองชีพต่ำกว่า (ภาคใต้และภาคกลางฝั่งตะวันตก) จะได้รับค่าจ้างถูกกว่า

กลุ่มธุรกิจที่ได้ค่าจ้างสูงนั้นยังเหมือนกับปีที่แล้วคือ งานในส่วนดาต้าเซ็นเตอร์และธุรกิจบริการสุขภาพได้ค่าจ้างมากที่สุด ขณะที่ในภาพอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจเชิงพาณิชย์ให้ค่าจ้างต่ำสุด และเมื่อพิจารณาจากความถนัดเฉพาะด้านแล้ว ผู้ที่ได้รับการสำรวจที่มีความเชี่ยวชาญด้านระบบออโตเมชั่นในอุตสาหกรรม และ Internet of Things (IoT) จะได้รับค่าตอบแทนจากความเชี่ยวชาญดังกล่าวสูงที่สุด (แม้เราจะไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวถึง IoT หมายถึงอะไรก็ตาม)

ในด้านของระดับการศึกษานั้น ผู้ที่จบปริญญาจากมหาวิทยาลัยได้ค่าจ้างมากที่สุด แต่ผู้ที่จบสายช่างเทคนิค หรือโรงเรียนฝึกอาชีพโดยตรงนั้นก็ไม่ได้น้อยลงมากเท่าไร ยิ่งผ่านการศึกษาด้านสายงานหรือมีใบประกาศรับรองโดยตรงก็จะยิ่งได้ค่าจ้างสูง เช่น ผู้ที่ได้ BICSI RCDD จะได้ค่าจ้างมากกว่าปกติ 16% ขณะที่ฝ่ายเทคนิคที่มีใบประกาศรับรอง Fluke Networks Certified Cabling Test Technician จะได้รับค่าจ้างสูงกว่าปกติถึง 18% หรือแม้แต่ผู้ที่เป็นสมาชิกสหภาพแรงงานก็จะได้ค่าจ้างเพิ่มมากด้วย โดยเฉพาะวิศวกร (+28%) และช่างเทคนิค (+17%) แต่ไม่ใช่กับระดับผู้บริหาร (-5%) โดยผู้ที่ได้รับการสำรวจประมาณ 10% ทำงานกับบริษัทที่มีสหภาพแรงงาน

สิ่งที่น่าแปลกใจ และอาจเป็นข่าวดีสำหรับฝั่งผู้จ้างก็คือ ผู้ได้รับการสำรวจมองภาพของตลาดแรงงานเป็นบวกน้อยลง โดยผู้ที่ยังมองในแง่บวกอยู่ที่ 71% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่ 80% ซึ่งจากการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายหลังจากทำการสำรวจครั้งนี้ ตัวเลขของคนส่วนใหญ่ที่ยังมองธุรกิจสายเคเบิลนี้ในแง่ดีย่อมเป็นสัญญาณที่ดีว่าเราน่าจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วอีกครั้ง

ท่านสามารถดูผลการสำรวจอย่างละเอียดได้ที่ https://www.flukenetworks.com/request/2019-salary-survey