หน้าแรก Networking & Wireless Fiber Optic ข้อมูลน่ารู้ : วิธีทดสอบหัวแปลง SFP และสายเคเบิลที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลน่ารู้ : วิธีทดสอบหัวแปลง SFP และสายเคเบิลที่เกี่ยวข้อง

แบ่งปัน

ช่วงนี้เราได้คำถามจำนวนมากเกี่ยวการทดสอบหัวแปลงสัญญาณหรือทรานซีฟเวอร์แบบ SFP (Small Form-factor Pluggable) ว่าทำงานได้ตามต้องการหรือไม่ จึงเป็นที่มาของบทความนี้ ที่เราจะพูดถึง SFP ในแง่ของโมดูลสายไฟเบอร์หลากหลายรูปแบบที่มีให้ใช้ในท้องตลาด ที่เราสามารถนำเครื่องทดสอบสายไฟเบอร์ของ Fluke Networks มาใช้ตรวจวัดแสงที่ออกมาจาก SFP ได้

วิธีทดสอบทรานซีฟเวอร์ SFP ด้วยเครื่อง FiberLert™ Live Fiber Detector

วิธีที่ง่ายที่สุดในการทดสอบทรานซีฟเวอร์ SFP ก็คือการใช้เครื่องตรวจสายไฟเบอร์แบบเรียลไทม์อย่าง FiberLert™ ที่ยิงแสงสว่างและกระพริบให้เห็นบนเส้นสายไฟเบอร์หรือพอร์ตให้เห็นเลย เครื่องทดสอบ SFP อย่างง่าย ขนาดกระทัดรัดพกพาสะดวกตัวนี้ใช้ทดสอบสายแพ็ตช์คอร์ด UPC และ APC ได้ทั้งแบบซิงเกิลโหมดและมัลติโหมด รวมทั้งพอร์ตของทรานซีฟเวอร์ได้โดยใช้ตัวตรวจจับที่ “ไม่สัมผัสกับสาย” ไม่ทำให้หน้าตัดสายสกปรก สามารถใช้ตรวจสายและพอร์ตของ SFP เพื่อแยกตัวสายเคเบิลหรือทรานซีฟเวอร์ที่มีปัญหาออกมาได้อย่างรวดเร็ว ตามที่สาธิตไว้ในวิดีโอนี้

 

ตรวจประสิทธิภาพ SFP ด้วยมิเตอร์ตรวจกำลังแสง

เริ่มจากปรับเครื่อง CertiFiber™ Pro ของคุณให้อยู่ในโหมด “Power Meter” โดยจากหน้าโฮม ให้เลือกเมนู TOOLS หรือถ้าเสียบเข้ากับโมดูล CertiFiber อยู่แล้ว ก็เลือก POWER METER เพื่อไปยังหน้าจอมิเตอร์โดยตรงได้เลย ซึ่งจะเห็นค่าขึ้นมาทันทีโดยไม่ต้องกดปุ่ม TEST อีกให้เสียเวลา!

แต่จะมีการตั้งค่าที่แนะนำให้ทำอยู่เล็กน้อย โดยให้มาดูส่วนล่างของหน้าจอพาวเวอร์มิเตอร์เลย เนื่องจากครึ่งบนเป็นส่วนของการส่งสัญญาณที่เราไม่ได้จำเป็นต้องใช้สำหรับทดสอบ SFP สิ่งที่เราจะดูมีแค่กำลังแสงที่ยิงออกมาเท่านั้น เราแนะนำให้เลือกอ่านเป็นหน่วย dBm ซึ่งจะสอดคล้องกับที่ระบุไว้ในสเปกของโมดูล SFP หลายเจ้า

ค่าที่อ่านได้ในหน่วย dBm สำหรับเช็คตามสเปกของโมดูล SFP หลายแบบ

การตั้งค่าที่สำคัญคือ ค่า λ (Lambda) หรือความยาวคลื่น ที่ตั้งตรงมุมล่างซ้าย ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณตรวจวัด ถ้าเป็นแบบมัลติโหมดก็ตั้งค่าเป็น 850 nm แต่ถ้าเป็นซิงเกิลโหมดก็ตั้งเป็น 1310 nm การกดปุ่ม Lambda จะแสดงเมนูให้เลือกความยาวคลื่นที่เหมาะสมในการตรวจครั้งนั้นๆ

ถ้าทดสอบสายมัลติโหมด เลือก 850 แต่ถ้าเป็นซิงเกิลโหมดก็เลือก 1310

ให้อ่านคำแนะนำจากผู้ผลิตเกี่ยวกับกำลังไฟที่รับได้สำหรับเครื่องตรวจวัดของคุณ ถ้าคุณได้ค่าที่เป็นบวก ก็อาจจำเป็นต้องใช้ Attenuator บนระบบของคุณ

แต่ถ้าพูดถึงการตรวจสภาพหน้าตัดสายแล้ว? เราไม่แนะนำให้ทำกับโมดูล SFP เนื่องจากกล้องไมโครสโคปสำหรับตรวจรวมถึงมาตรฐานที่เกี่ยวข้องอย่าง IEC 61300-3-35 ต่างถูกออกแบบมาสำหรับเฉพาะหัวต่อ ไม่ใช่กับพอร์ตขาออกของ SFP รวมทั้งพอร์ตขาเข้าของ SFP มักจะมีบริเวณที่ไม่สัมผัสกับตัวสายค่อนข้างกว้าง สายไฟเบอร์จึงไม่ได้มาสัมผัสกับพอร์ตโดยตรง บริเวณจึงควรที่จะยังสะอาดอยู่พอสมควร และถึงจะมีฝุ่นผงสิ่งสกปรกเข้าไปในพอร์ต ก็ยากมากที่จะมองเห็นผ่านกล้องไมโครสโคป

การทดสอบลิงค์มัลติไฟเบอร์

ถ้าคุณใช้ QSFP ส่งสัญญาณที่ระดับ 40 กิกะบิตผ่านหัวต่อ MPO แล้ว คุณสามารถทดสอบได้สองแบบคือ แบบแรกใช้สาย Fan out ที่ต่อจากพอร์ต MPO ไปยังขาต่างๆ ของหัวต่อ LC จากนั้นจึงเสียบเข้ากับเครื่อง CertiFiber Pro

ขณะที่อีกแบบคือการเสียบสายเคเบิล MPO เข้ากับเครื่อง MultiFiber™ Pro โดยตรง ตั้งค่าเป็นโหมด POWER แล้วคุณจะเห็นระดับพลังงานของสายไฟเบอร์ย่อยแต่ละเส้นได้ ดูตัวอย่างหน้าจอจากภาพด้านล่างที่เห็นว่ามีแค่แชนแนลเดียวที่มีแสงเข้า:

หน้าจอ Fluke MultiFiber Pro ที่ตั้งค่าเป็นโหมด Power

จำไว้ว่า ถ้าคุณกำลังใช้ระบบระดับ 40 กิกะบิต ก็เป็นไปได้ว่าน่าจะใช้สายไฟเบอร์ย่อยแค่ 4 เส้น จึงไม่ต้องแปลกใจถ้าคุณเห็นระดับพลังงานแค่ 4 เส้นแรกหรือ 4 เส้นสุดท้ายบนหน้าจอพาวเวอร์มิเตอร์

ที่มา : https://www.flukenetworks.com/blog/cabling-chronicles/my-sfp-working-or-how-measure-sfpsfpqsfp