หน้าแรก Data Center 5 ปัจจัยที่ควรคำนึงเวลาเลือกผู้ให้บริการ Colocation

5 ปัจจัยที่ควรคำนึงเวลาเลือกผู้ให้บริการ Colocation

แบ่งปัน

มีคำแนะนำมากมายเกลื่อนโลกออนไลน์เกี่ยวกับวิธีการเลือกผู้ให้บริการคลาวด์ที่เหมาะสม แต่พอพูดถึงบริษัทด้านโคโลเคชั่นแล้ว หลายคนคงยังสงสัยว่าเราควรพิจารณาด้านใดบ้างเวลาที่ต้องเปรียบเทียบผู้ให้บริการโคโลแต่ละราย

คำตอบนั้นขึ้นกับสิ่งที่คุณคาดหวังจากบริการโคโลเคชั่น แต่โดยทั่วไปแล้วเรามีหลักพิจารณาพื้นที่ที่จะช่วยให้คุณเลือกผู้ให้บริการโคโลเคชั่นที่เหมาะกับรูปแบบการใช้งานของคุณมากที่สุด ไม่ว่าจะเรื่องตำแหน่งที่ตั้ง บริการเสริม การเชื่อมต่อ ความเสถียร เป็นต้น

ตำแหน่งที่ตั้ง
หนึ่งในเหตุผลที่พบบ่อยที่สุดที่จำเป็นต้องโฮสต์โหลดงานในโคโลเคชั่นแทนที่จะย้ายขึ้นพับลิกคลาวด์ก็คือ ผู้ให้บริการโคโลมักเปิดให้เข้าถึงดาต้าเซ็นเตอร์ส่วนที่เราเช่าได้ ขณะที่ผู้ให้บริการคลาวด์จะไม่ให้เราแตะระบบโครงสร้างพื้นฐานเลย

ซึ่งจุดนี้มีความสำคัญมากในกรณีที่จำเป็นต้องหาตำแหน่งรันโหลดงานในพื้นที่ที่จำเพาะเพื่อลดเวลาหน่วงให้มากที่สุด โดยบางแห่งอาจมีดาต้าเซ็นเตอร์หลายแห่งให้เลือก บางเจ้ามีแบบที่อยู่ใกล้แหล่งชุมชนเป้าหมายหรือพื้นที่ที่ต้องการมากกว่า เป็นต้น

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ตั้งที่คุณคาดหวังให้โหลดงานตัวเองไปรันอยู่มากที่สุด ที่ทำให้ปัจจัยด้านจำนวนและรูปแบบของตำแหน่งที่ตั้งดาต้าเซ็นเตอร์จะกลายเป็นประเด็นหลักที่จำเป็นต้องใช้ในการเลือกบริษัทบริการโคโลเคชั่น

บริการจัดการที่มีให้
ผู้ให้บริการโคโลเคชั่นบางเจ้ามีบริการจัดการสำเร็จรูปให้หลากหลายแบบ ซึ่งมักแตกต่างกันในแต่ละราย ไม่ว่าจะเป็นบริการช่วยติดตั้งและจัดการฮาร์ดแวร์ให้ ไปจนถึงแบ๊กอัพข้อมูล บริการจัดการด้านความปลอดภัยให้ ฯลฯ

ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือในการบริหารจัดการระบบแล้ว ก็ควรพิจารณาบริการเสริมพวกนี้ด้วย แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าคุณมีทรัพยากรในการควบคุมดูแลทุกอย่างด้วยตัวเองอยู่แล้ว เพียงแค่ต้องการเช่าตัวดาต้าเซ็นเตอร์เฉยๆ ก็ไม่จำเป็นต้องดูบริการพวกนี้

ด้านการเชื่อมต่อ
แม้เราจะมองได้ว่าโคโลเกือบทุกเช้าให้การเชื่อมต่อเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพสูงกันทั้งนั้น แต่ตัวเลือกด้านการเชื่อมต่อก็มีหลากหลายแบบทั้งด้านรูปแบบและประสิทธิภาพให้เลือก ถ้าคุณต้องการเชื่อมต่อระบบที่โคโลกับบริการพับลิกคลาวด์บางอย่าง ก็ควรมองปัจจัยด้านนี้ประกอบด้วย

ด้านความเสถียร
บริษัทผู้ให้บริการโคโลเคชั่นส่วนใหญ่มีบริการที่เกี่ยวข้องกับความพร้อมในการให้บริการไม่ว่าจะเป็น ระบบสำรองไฟ เครือข่ายเชื่อมต่อสำรอง หรือทรัพยากรอื่นๆ ที่ช่วยเพิ่มเสถียรภาพของโหลดงานที่รันอยู่ในโคโล ซึ่งแต่ละเจ้าก็มีมากน้อยแตกต่างกันไป

บางรายอาจมีบริการมากไปถึงการกู้ระบบจากภัยพิบัติ ที่ช่วยให้ลูกค้ากู้คืนสภาพแวดล้อมการทำงานเดิมกลับขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว หรือผู้ให้บริการบางรายอาจให้การการันตีว่าดาต้าเซ็นเตอร์ตัวเองสามารถทนต่อภัยพิบัติบางอย่าง

เช่น บางเจ้าโฆษณาไว้เลยว่า ดาต้าเซ็นเตอร์ของตัวเองไม่หวั่นแม้น้ำท่วม แผ่นดินไหว พายุเฮอร์ริเคน เป็นต้น ซึ่งถ้าเกิดตัวคุณเองก็ต้องการโหลดงานที่พร้อมให้เข้าถึงในระดับสูง (ซึ่งยุคนี้ใครๆ ก็ต้อง) ก็ควรเปรียบเทียบการการันตีด้านความเสถียรระหว่างเจ้าโคโล

ตรวจประวัติผู้ให้บริการ
ปัจจัยสุดท้ายที่ควรพิจารณาในการเลือกผู้ให้บริการโคโลเคชั่นก็คือ ประวัติเดิมที่เคยให้บริการมา รวมทั้งวิสัยทัศน์ในอนาคตของบริษัทนั้นๆ ด้วย ได้แก่ อายุที่ให้บริการมาตั้งแต่ก่อตั้ง? เคยมีประวัติเหตุการณ์ที่ต้องหยุดให้บริการไหม?

ไปจนถึงผู้ให้บริการดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะถูกซื้อกิจการที่ส่อถึงความไม่แน่นอนในอนาคตหรือไม่? แม้โคโลเจ้าใหม่ๆ ที่เพิ่งเปิดตัวก็ไม่ได้แปลว่าจะด้อยกว่าเจ้าเก่าเจ้าเก๋าทั้งหลาย แต่เจ้าที่มีประวัติขาวสะอาดก็มักรักษาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง

แน่นอนคุณคงไม่เลือกบริการพับลิกคลาวด์ที่เพิ่งเปิดใหม่เมื่อวาน ดังนั้นคุณก็คงใช้เหตุผลเดียวกันนี้ในการเลือกเจ้าโคโลด้วยเช่นกัน จำไว้ว่าเราควรพิจารณาปัจจัยข้างต้นทั้งหมดนี้ในภาพรวม มองให้ยาวกว่าแค่เรื่องราคา

ที่มา : DatacenterKnowledge