หน้าแรก Internet of Things โรงงาน WD ในประเทศไทย เข้าสู่โกลบอล ไลท์เฮ้าส์ เน็ตเวิร์ค

โรงงาน WD ในประเทศไทย เข้าสู่โกลบอล ไลท์เฮ้าส์ เน็ตเวิร์ค

แบ่งปัน

บริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล แถลงในวันนี้ว่า เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรั่ม (World Economic Forum: WEF) ได้คัดเลือกให้โรงงานของเวสเทิร์น ดิจิตอล ที่เป็นโรงงานอัจฉริยะในประเทศไทยเข้าสู่โกลบอล ไลท์เฮ้าส์ เน็ตเวิร์ค (Global Lighthouse Network) ซึ่งเป็นประชาคมของบริษัทชั้นนำระดับโลกที่ประสบความสำเร็จในการนำเทคโนโลยีในกลุ่มของการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 (4IR) มาใช้

โรงงานเวสเทิร์น ดิจิตอล ประเทศไทย เป็นผู้ผลิตแห่งแรกในประเทศจากโรงงานทั้ง 90 แห่งทั่วโลกที่อยู่ในเครือข่าย Lighthouse ของ World Economic Forum ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีที่มีกิจกรรมในฐานการผลิตและการเชื่อมต่อของห่วงโซ่การผลิตแบบ E2E (End-to-End) เพื่อเร่งการนำเอาเทคโนโลยีและกลยุทธ์ทางดิจิทัลเข้ามาใช้ในการวางรากฐานในการดำเนินธุรกิจและเพิ่มประสิทธิภาพของมนุษย์ในวงกว้าง

เดวิด เกอเคเลอร์ (David Goekeler) ซีอีโอของเวสเทิร์น ดิจิตอล กล่าวว่า “การที่ WEF คัดเลือกให้เวสเทิร์น ดิจิตอลเป็นเครือข่าย Lighthouse ในวันนี้นับว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง และยังเป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นถึงความพยายามในการเป็นผู้นำอุตสาหกรรม 4.0 ทั้งในด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีและการมีส่วนร่วมของบุคลากรในองค์กร” และกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “ในยุคที่โลกใช้เทคโนโลยีและพึ่งพาเทคโนโลยีมากขึ้น ในฐานะผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลชั้นนำของโลก และเป็นองค์กรที่มุ่งมั่นพัฒนาให้โรงงานผลิตของเราที่ดำเนินงานอยู่ในทั่วโลกเกิดการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน เพื่อส่งมอบคุณค่าให้กับลูกค้า พนักงาน และพันธมิตรของเรา ดังนั้น เราเข้าใจดีว่าไม่มีอะไรที่สำคัญมากไปกว่าเรื่องความรับผิดชอบต่ออนาคตของอุตสาหกรรม”

เวสเทิร์น ดิจิตอล นำเอานวัตกรรมเทคโนโลยีที่ลูกค้าสามารถนำไปใช้ได้ในแต่ละวัน เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) หุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติ การวิเคราะห์ขั้นสูง และระบบอินเตอร์เน็ตที่เชื่อมโยงในทุกสรรพสิ่ง (Internet of Things: IoT) มาใช้เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่โรงงานของเวสเทิร์น ดิจิตอล ในจังหวัดปราจีนบุรี ประเทศไทย

ด้วยความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ข้อกำหนดด้านคุณภาพที่เข้มงวด และความเข้มข้นในเรื่องของต้นทุนการผลิตของฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) ที่โรงงานเวสเทิร์น ดิจิตอล ในปราจีนบุรี ได้มีการนำเอาการเชื่อมต่อและเทคโนโลยีการวิเคราะห์ขั้นสูงมาใช้ประโยชน์ เพื่อเปลี่ยนให้โรงงานที่กำลังการผลิตมีความอิ่มตัวให้กลายเป็นระบบปฏิบัติการแบบดิจิทัลที่สามารถมองเห็นได้แบบเรียลไทม์ตั้งแต่ ซัพพลายเออร์ การผลิต ลอจิสติกส์ และลูกค้า รวมถึงวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกและการคาดการณ์ตามข้อมูล ซึ่งท้ายที่สุดแล้วสามารถเพิ่มผลผลิตของโรงงานได้ถึง 123 เปอร์เซ็นต์ สามารถเลี่ยงค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อและการผลิตลงได้ 30 เปอร์เซ็นต์ และลดอัตราการคืนสินค้าลงได้ 43 เปอร์เซ็นต์

การพัฒนาบุคลากรก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญสำหรับโรงงานเวสเทิร์น ดิจิตอล ปราจีนบุรี ที่นอกเหนือจากเรื่องเทคโนโลยี โรงงานที่ปราจีนได้เปิดตัวศูนย์ความเป็นเลิศทางวิชาการ (Center of Excellence: CoE) เป็นโครงการเพื่อให้ความรู้และบ่มเพาะความสามารถเพื่อปลูกฝังวิธีคิดรูปแบบใหม่ด้วยการใช้เทคโนโลยี 4IR ยิ่งไปกว่านั้น โรงงานแห่งนี้ยังร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและรัฐบาลอย่างใกล้ชิดเพื่อที่จะขับเคลื่อนโครงการวิจัยเชิงลึก และมีส่วนร่วมในความพยายามเรื่องการประหยัดพลังงานและความยั่งยืน

ฟรานซิสโก เบตติ (Francisco Betti) หัวหน้าฝ่ายสร้างการผลิตขั้นสูงและห่วงโซ่คุณค่าของ World Economic Forum กล่าว “ความกังวลของทั่วโลกในเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ทำให้ความยั่งยืนเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยรักษาความสามารถในการดำเนินธุรกิจ” และเสริมอีกว่า “Lighthouse เรื่องความยั่งยืนนี้ได้รับการคัดเลือกเพื่อทำให้เห็นชัดเจนในเรื่องความสามารถในการตระหนักเทคโนโลยี 4IR ในการผลิต บริษัทต่าง ๆ สามารถก้าวขึ้นไปสู่ความยั่งยืนในการปฏิบัติการและโซลูชั่นการดำเนินการแบบ win-win ความสามารถในการแข่งขันในการดำเนินงานที่มากขึ้น ในขณะเดียวกันก็มีความรับผิดชอบต่อการดูแลสิ่งแวดล้อม ซึ่งนำไปสู่อนาคตที่สะอาดขึ้นและยั่งยืนยิ่งขึ้น”