หน้าแรก Internet of Things Cryptocurrency เทรนด์ไมโครจับมือตำรวจสากล ช่วยลดการโจมตีแบบ Cryptojacking กว่า 78%

เทรนด์ไมโครจับมือตำรวจสากล ช่วยลดการโจมตีแบบ Cryptojacking กว่า 78%

แบ่งปัน

เทรนด์ไมโคร ภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับปฏิบัติการของ INTERPOL และประสบความสำเร็จกับโครงการ INTERPOL Global Complex for Innovation (IGCI) ในประเทศสิงคโปร์ ที่ช่วยลดจำนวนผู้ใช้ที่ติดมัลแวร์ Cryptomining ได้ถึง 78%

การโจมตีลักษณะดังกล่าวเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Cryptojacking ถือเป็นการโจมตีที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นมากในหมู่อาชญากรไซเบอร์ที่ต้องการหาเงิน สาเหตุเนื่องจากเหยื่อแทบไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังโดนโจมตีอยู่ โดยที่มัลแวร์ฝังตัวอยู่บนเครื่องแล้วคอยขุดเหมืองเงินคริปโตตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ แฮกเกอร์ก็ยังพยายามเปิดฉากการโจมตีที่ซับซ้อนมากขึ้นกับระบบไอทีขององค์กร และเซิร์ฟเวอร์คลาวด์เพื่อเพิ่มศักยภาพในการขุดเหมือง และทำเงิน กลุ่มอาชญากรหลายรายก็ยังเลือกที่จะโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ตามบ้านอย่างเช่น เราเตอร์ ทั้งนี้เพราะระบบเหล่านี้มักไม่ได้มีการป้องกันอย่างเพียงพอ และสามารถผสานกลุ่มอุปกรณ์เหล่านี้ให้เป็นกองทัพบอทเน็ตไปพร้อม ๆ กับเป็นฟาร์มถลุงเงินมหาศาลได้

ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ Cryptojacking ยังเป็นอันตรายที่หลบซ่อนการตรวจจับได้ร้ายกาจที่สุดในปี 2019 ในแง่ของอันตรายที่อยู่ในรูปของไฟล์ (อ้างอิงจากข้อมูลของเทรนด์ไมโคร ดูข้อมูลได้ที่ http://bit.ly/2tSqPyN)

แม้จะไม่ได้สร้างผลกระทบเสียหายอย่างรุนแรงเหมือนกับเหตุข้อมูลรั่วไหล การโจมตีแบบฟิชชิ่ง แรนซั่มแวร์ หรือโทรจันที่โจมตีสถาบันการเงิน หรือไม่ได้จารกรรมข้อมูลที่เป็นความลับ ไม่ทำให้เกิดความเสี่ยงในการปลอมตัวตนบุคคลอื่น หรือถูกเรียกเอาเงินจากการล็อกพีซีไว้เป็นตัวประกันก็ตาม แต่ก็ไม่ใช่ว่าการโจมตีแบบนี้จะไม่มีผลกระทบเสียทีเดียว มัลแวร์ Cryptomining สามารถทำให้เน็ตเวิร์กภายในบ้านช้าลง ขณะที่ทำให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นมาก แถมยังทำให้คอมพิวเตอร์ในบ้านเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร รวมทั้งยังเสี่ยงที่จะติดมัลแวร์ตัวอื่น ๆ ถ้าเกิดแฮกเกอร์อยากเปลี่ยนเทคนิคการโจมตีขึ้นมา รวมทั้งมีโอกาสโดนเอาเครื่องใช้ภายในบ้านของคุณไปเป็นฐานกำลังในการโจมตีอย่างอื่นในอนาคตได้ด้วย