หน้าแรก Home feature บทสรุปงาน “Accelerate 2021” เติมเต็มศักยภาพด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้โดย Fortinet

บทสรุปงาน “Accelerate 2021” เติมเต็มศักยภาพด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้โดย Fortinet

แบ่งปัน

เมื่อไม่นานมานี้ทาง Enterprise ITPro ได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของงานอันยิ่งใหญ่ด้านซีเคียวริตี้ระดับโลกที่ชื่อว่า Accelerate 2021 (เป็นแบบ Digital Edition) ที่จัดขึ้นโดยทางบริษัทฟอร์ติเน็ต เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา มีประเด็นที่น่าสนใจและผู้บริหารระดับสูงหมุนเวียนมาอัพเดตข้อมูลให้เราได้ทราบกัน

โดยผู้บริหารที่มาอัพเดตข้อมูลให้กับพวกเรา ประกอบด้วยคุณ แพททริส เพร์ช ประธานกรรมการ ฝ่ายพัฒนารายได้ และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายสนับสนุน ฟอร์ติเน็ต ในหัวข้อ “Anatomy of a Common Success” และถัดมาเป็น คุณเคน ซี ผู้ก่อตั้ง ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฟอร์ติเน็ต ในหัวข้อ “Winning Cybersecurity Strategies” และท่านที่สาม คุณจอห์น แมดิสัน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด และรองประธานอาวุโส ฝ่ายผลิตภัณฑ์ ฟอร์ติเน็ต ในหัวข้อ “Securing All Network Edges”

แพททริส เพร์ช

คุณแพททริส ได้เล่าให้ฟังว่า ฟอร์ติเน็ตเริ่มดำเนินธุรกิจมาปีนี่เป็นปีที่ 20 แล้ว และประสบความสำเร็จมาโดยตลอด สิ่งที่ทำให้ฟอร์ติเน็ตประสบความสำเร็จ เป็นเพราะฟอร์ติเน็ตมีวิสัยทัศน์ที่ถูกต้อง และเห็นถึงปัญหาการขาดทักษะด้านความปลอดภัยไซเบอร์จนเข้าไปจัดหลักสูตรการเรียน NSE ระดับชาติ ช่วยสร้างทักษะให้กับอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงได้สร้างโซลูชั่นรองรับวิสัยทัศน์ตั้งแต่ต้น เหมือนเป็น DNA ของฟอร์ติเน็ตซึ่งรวมถึงวิสัยทัศน์ทางด้าน Convergence of Network & Security ที่ฟอร์ติเน็ตได้ตระหนักดีว่าความปลอดภัยและเครือข่ายจะต้องทำงานด้วยกันเป็นหนึ่ง

ถัดมาเป็น The Freedom of choice in the Cloud ฟอร์ติเน็ตเป็นองค์กรเดียวที่พัฒนาโซลูชั่นในหลายรูปแบบ ที่ยืดหยุ่นสูง เอื้อให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้งานคลาวด์ในรูปแบบใดก็ได้ จากที่ใดก็ได้ ในขณะที่องค์กรจะยังคงมีนโยบายด้านความปลอดภัยเดียวตลอดเครือข่าย และ The Rise of the Edge การเกิดส่วนเอจของเครือข่ายที่หลากหลาย อาทิ Data Edge, OT Edge, Cloud Edge ต่างๆ และได้พัฒนาโซลูชั่นประเภท Zero Trust Network Access หรือ ZTNA

เคน ซี ผู้ก่อตั้ง ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฟอร์ติเน็ต

โดยที่ ZTNA จากฟอร์ติเน็ตจะช่วยให้องค์กรมีวิธีควบคุมการเข้าถึงทรัพยากรบนเครือข่ายแบบครบวงจร ที่สร้างประสิทธิภาพในการระบุตัวตน ยืนยันตัวตน การตรวจสอบและติดตามผู้ใช้ อุปกรณ์เครือข่าย และ IoT ที่อยู่ทั้งภายในและภายนอกเครือข่ายได้

ทางด้าน คุณเคน ซี ได้มาบรรยายเป็นท่านที่สอง โดยเริ่มตนเขาได้พูดถึงภาพรวมของการเติบโตของฟอร์ติเน็ต โดยจาก 20 ปีที่ผ่านมาฟอร์ติเน็ตมีอัตราเติบโตถึง 45% เป็นแบบปีต่อปีและสูงกว่าคู่แข่งถึง 10% อีกด้วย เขาเสริมว่าพวกเขาได้พัฒนาผลิตภัณฑ์เองตั้งแต่เริ่ม จึงทำให้ผลิตภัณฑ์ของฟอร์ติเน็ตมีความแข็งแกร่งและทำงานเข้ากันได้ดีในทุกส่วน

สำหรับในปี 2021 นี้ คุณเคน ซี บอกว่า ฟอร์ติเน็ตมีกลยุทธ์ในด้านธุรกิจที่รองรับการเปลี่ยนแปลงของตลาดครอบคลุม 3 ด้านสำคัญคือ Endpoint, Network และคลาวด์ Cloud ทำให้พวกเขาเน้นสร้างแพลทฟอร์มที่เป็น Security-driven Network, Zero Trust Access ต้องสามารถป้องกันโมบาย ในคลาวด์ ใน WAN ใน 5G และในภายในเองค์กรเองได้

นอกจากนั้นจากการคาดการณ์ของการ์ทเนอร์ ที่เห็นว่า Edge จะมาแทนคลาวด์ และฟอร์ติเน็ตมีโซลูชั่นครบถ้วน กว้างกว่า ทำให้ฟอร์ติเน็ตมีกลยุทธ์ที่ถูกทางและสร้างความเชื่อมั่นให้องค์กรได้ นี่คือข้อแตกต่างจากคู่แข่ง คุณเคน ซียังทิ้งท้ายไว้ว่า ฟอร์ติเน็ตจะขยาย Portfolio ต่อไป และจะมุ่งเป็นผู้นำในตลาดของSD-WAN, Security Driven Networking และจะเน้นสร้างการเจริญเติบโตด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีโอเอสรุ่นใหม่ๆ อย่างเช่น FortiOS และ NP7 (Network Processor รุ่น 7) ที่จะได้เห็นกัน

ทางด้านคุณจอห์น แมดิสัน ได้เล่าให้พวกเราฟังว่า การ์ทเนอร์ บริษัทวิจัยชั้นนำ ได้มีการยกย่องฟอร์ติเน็ตให้ติดอันดับผู้นำในรายงาน Gartner Magic Quadrant สำหรับกลุ่มอุปกรณ์ Network firewall และ WAN Edge Infrastructure โดยปกติแล้วผู้ที่จะได้รับรางวัลทั้งสองนี้ มักจะเป็นคนละบริษัทกัน แต่สำหรับฟอร์ติเน็ตกลับได้รับรางวัลทั้งคู่ เป็นการการันตีและช่วยให้มั่นใจว่า อุปกรณ์สามารถทำงานเข้ากันได้เป็นอย่างดี สร้างประสิทธิภาพได้อย่างเต็มที่

จอห์น แมดิสัน

เขายังได้เสริมถึงกลยุทธ์ที่สำคัญของฟอร์ติเน็ตในการดำเนินงานที่เรียกกันว่า “Security Fabric” ซึ่งมีองค์ประกอบที่สำคัญ 4 ด้าน ได้แก่

Zero Trust Access – การรักษาความปลอดภัยในการเข้าถึงองค์กร ไม่ว่าผู้ใช้งาน อุปกรณ์ทั่วไป หรืออุปกรณ์ไอโอที จากทั้งภายในและภายนอกเครือข่าย โดยเขามองว่าในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 การสื่อสารและการทำงานร่วมกันจะต้องมีระบบ Zero Trust เพิ่มเข้ามามากขึ้น โดยมีผลิตภัณฑ์ FortiClient ในการขับเคลื่อน

Security-Driven Networking – การสร้างเครือข่ายที่ขับเคลื่อนด้วยคุณสมบัติด้านความปลอดภัย ยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้งานให้ดียิ่งขึ้น ทำงานที่เร็วมากขึ้น

Adaptive Cloud Security – การปกป้องและควบคุม สำหรับโครงสร้างสถาปัตยกรรมและแอปพลิเคชั่นต่างๆ บนคลาวด์ ทั้งที่เมล เว็บที่ต่างกัน ลูกค้าสามารถใช้โซลูชั่นของผู้ให้บริการรวมถึง SaaS, Edge หรือของฟอร์ติเน็ตรวมถึง FortiMail, FortiWeb, FortiADC, FortinGSLB ก้ได้

AI-Driven Security Operations – การบริหารการจัดการความปลอดภัยด้านการปฏิบัติงานป้องกันภัยไซเบอร์โดยใช้ระบบเอไอเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้การทำงานและการป้องกันเป็นไปได้อย่างรวดเร็วมาก

จากข้อมูลในข้างต้นในปีนี้ ทาง Enterprise ITPro เชื่อว่าเทคโนโลยีและแนวทางด้านโซลูชั่นด้านความปลอดภัยจากฟอร์ติเน็ตจะต้องกลายเป็นที่จับตาอย่างแน่นอน