หน้าแรก Security Hacker วิธีการง่ายๆ ในการตรวจดูว่า Twitter ของคุณโดนแฮ็กหรือไม่?

วิธีการง่ายๆ ในการตรวจดูว่า Twitter ของคุณโดนแฮ็กหรือไม่?

แบ่งปัน

เพราะการโดนแฮ็กไม่จำเป็นต้องแสดงอาการในทันที บางทีตอนนี้คุณอาจจะโดนแฮ็กทวิตเตอร์ไปแล้วก็ได้ แล้ววันดีคืนดีที่คุณยังนิ่งนอนใจก็อาจมีทวิตแปลกๆ ออกมาจากบัญชีของคุณ โดยเฉพาะบัญชีที่เป็นแบรนด์ทางการค้าที่ทวิตผิดปุ๊บชีวิตเปลี่ยนปั๊บ อย่างไรก็ดี ปัจจุบันทวิตเตอร์มีกลไกให้ผู้ใช้ตรวจสอบอยู่หลายแบบด้วยกัน

ให้หลังจากกูเกิ้ลและเฟซบุ๊กไม่นาน ทวิตเตอร์ก็หันมาพัฒนาฟีเจอร์ที่เปิดให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบได้ว่ามีการล็อกอินเข้าบัญชีของตนเองจากอุปกรณ์ใดบ้าง ไม่ว่าจะเป็นแล็ปท็อป, โทรศัพท์, หรือแท็บเล็ต ซึ่งฟีเจอร์นี้มีชื่อว่า Apps and Sessions ที่แสดงทั้งรายการแอพและอุปกรณ์ รวมทั้งตำแหน่งอุปกรณ์ที่ล็อกอินอยู่

ฟีเจอร์นี้เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานี้เอง ซึ่งมีวิธีการใช้งานง่ายๆ ดังต่อไปนี้

สำหรับการตรวจสอบเซสชั่นการล็อกอินทวิตเตอร์บนสมาร์ทโฟนนั้น

  1. ให้เปิดแอพทวิตเตอร์ แล้วไปที่หน้าโปรไฟล์
  2. จากนั้นกดเลือก “Settings and Privacy”
  3. ในหน้านี้ ให้ไปที่ “Account”
  4. จากนั้นให้กดเลือก “Apps and Sessions” เพื่อแสดงรายละเอียดของเซสชั่นการล็อกอินทั้งหมด
ส่วนการตรวจสอบเซสชั่นการล็อกอินผ่านคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปหรือแล็ปท็อปนั้นก็คล้ายๆ กัน คือ

1.ให้เปิดหน้าเว็บทวิตเตอร์ แล้วกดตรงไอคอนรูปของเราตรงมุมบนขวาซึ่งจะแสดงเมนูเกี่ยวกับการตั้งค่าบัญชีผู้ใช้ทั้งหมด
2.จากนั้นไปยัง “Settings and Privacy”
3. ในส่วนนี้ ให้เลื่อนลงมาจนเจอเมนูย่อย “Apps and Devices”

ไม่ว่าจะเป็นหน้า “App and Sessions” บนอุปกรณ์พกพาหรือคอมพิวเตอร์ก็ตาม คุณจะเห็นรายการอุปกรณ์ที่เข้าใช้บัญชีทวิตเตอร์ในช่วงเดือนที่ผ่านมา พร้อมสถานที่ที่ล็อกอิน รวมไปถึงรายการแอพเธิร์ดปาร์ตี้ที่ได้เข้าถึงบัญชีผู้ใช้ของคุณด้วย

ซึ่งคุณสามารถคลิกที่อุปกรณ์แต่ละรายการเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นชื่ออุปกรณ์ที่ล็อกอิน, ชนิดเว็บบราวเซอร์, วันที่และเวลา, รวมถึงพิกัดสถานที่คร่าวๆ ที่ใช้ล็อกอิน เป็นต้น

ถ้าเจออุปกรณ์ที่น่าสงสัยกำลังล็อกอินอยู่ ก็สามารถกดให้อุปกรณ์นั้นเด้งออกไปได้เพียงแค่นิ้วคลิก โดยถือเป็นการปิดเซสชั่นทั้งหมดจากอุปกรณ์นั้น อย่างไรก็ตาม ยังแนะนำให้ผู้ใช้คอยเปลี่ยนรหัสผ่านโดยเฉพาะเมื่อพบเซสชั่นต้องสงสัย รวมไปถึงตั้งค่าการล็อกอินแบบสองขั้นตอนเพื่อความปลอดภัยสูงสุด

ที่มา : Thehackernews