หน้าแรก News & Event PagerDuty Rundeck (Process Automation): ช่วยให้การทำงานทางด้าน IT Self-Service Automation เป็นจริงได้

PagerDuty Rundeck (Process Automation): ช่วยให้การทำงานทางด้าน IT Self-Service Automation เป็นจริงได้

แบ่งปัน

การนำระบบ IT Automation เข้ามาใช้งานทางด้าน IT เป็นเรื่องที่ซับซ้อนและยุ่งยาก เนื่องจากต้องทำการวิเคราะห์ระบบที่เกี่ยวข้องกัน รวมถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างระบบ (Architecture) และเครื่องมือต่างๆที่ใช้ในกระบวนการนั้น นอกจากนั้น การทำระบบ IT Automation อาจมีค่าใช้จ่ายที่สูง เนื่องจากต้องลงทุนในการพัฒนาและปรับปรุงระบบ รวมถึงการฝึกอบรมพนักงานให้เข้าใจและสามารถใช้ระบบได้อย่างถูกต้อง อีกทั้งยังต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลและการควบคุมความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ระบบอัตโนมัติ

อย่างไรก็ตาม การนำระบบ IT Automation เข้ามาใช้งานมีประโยชน์มากมาย เช่น ลดความผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ลดต้นทุนการทำงาน ประหยัดเวลา และสร้างพื้นฐานให้กับการพัฒนาและขยายธุรกิจในอนาคต

PagerDuty Rundeck (หรือ Process Automation) เป็นระบบ IT Automation ที่ช่วยให้คุณสามารถสร้าง (Build), ใช้งาน (Deploy), และบริหารจัดการ (Manage) ระบบงาน IT ต่างๆ อัตโนมัติได้ ระบบนี้มีระบบ Runbook Automation ซึ่งช่วยในกระบวนการทำงานที่ซ้ำซ้อนโดยอัตโนมัติ โดยสามารถทำงานผ่าน Web Console, CLI Command, และ Web API ซึ่งทำให้สามารถเชื่อมต่อการทำงาน Automation ระหว่างเครื่องหรือระบบที่แตกต่างกันในรูปแบบ Workflow ได้อย่างง่ายดาย

PagerDuty Rundeck เน้นความสำคัญของ Runbook Automation ซึ่งเป็นระบบส่วนกลางที่จัดการระบบอัตโนมัติในสภาพแวดล้อมต่างๆ ระบบนี้ออกแบบมาเพื่อช่วยให้องค์กรสามารถสร้างระบบ Automation ที่สามารถทำงานและใช้ประโยชน์จากระบบที่มีอยู่แล้วโดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงหรือลงทุนเพิ่มเติม โดยระบบสามารถบริหารจัดการได้ตั้งแต่ Cloud ไปจนถึง Micro Service และสามารถทำงานร่วมกับสคริปต์ (Script) ที่มีการใช้งาน รวมถึงรองรับการใช้งานร่วมกับเครื่องมือ DevSecOps ที่องค์กรมีอยู่แล้วได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

PagerDuty Rundeck – Runbook Automation

เป็นระบบที่ทำหน้าที่เสมือน “Operations as a Service” โดยมีความสามารถในการทำ Self-service Automation สำหรับการดำเนินงานด้าน Operation ต่างๆ ที่เคยมีความซับซ้อน องค์กรสามารถใช้ระบบนี้เพื่อให้ผู้ที่ต้องใช้งานระบบต่างๆ ทำงาน Self-service ตามที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย

การทำ Self-service Automation ให้ความสำคัญกับองค์กรในปัจจุบันเนื่องจากมีประโยชน์หลายอย่าง เช่น:

  • การทำงานด้าน Operation เป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและมีความเกี่ยวข้องกับหลายระบบและกลุ่มคน – การจัดการขั้นตอนงานที่ซับซ้อนนี้มักจะมีความซับซ้อนและความยุ่งยาก เนื่องจากต้องทำงานในหลายขั้นตอนและเกี่ยวข้องกับระบบหลายระบบ อาทิเช่น การใช้คำสั่งหลายคำสั่งหรือการทำงานบนหลายหน้าจอ และมีการประสานงานกับคนหลายกลุ่มคน ทำให้ต้องใช้เวลาและความรู้ที่หลากหลายในการดำเนินการ
  • การถ่ายทอดความรู้ทำได้ยาก ใช้เวลาและมีราคาแพง – การจะถ่ายทอดความรู้ของการทำงานให้กับพนักงานคนอื่น เพื่อให้พนักงานผู้นั้นสามารถทำงานที่ซับซ้อนได้ คุณต้องถ่ายทอดขั้นตอนการทำงาน วิธีการดำเนินการ และวิธีการตรวจสอบผลลัพธ์ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปได้ง่าย
  • ทุกสิ่งทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วกว่าที่เคยมา – ภายใต้ Digital Transformation, DevOps และ Cloud การเปลี่ยนแปลงและความซับซ้อนจะมีมากขึ้นหลายเท่าตัวและจะเพิ่มไปตลอดเวลาของการทำงาน ดังนั้น โดยทั่วไประบบ Operation จะต้องทำการปรับตามทั้งในส่วนของ People, Product, Process ซึ่ง Runbook สามารถช่วยให้ระบบ Operation ปรับเปลี่ยนตามการเปลี่ยนแปลง สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว

Operations as a Service (OaaS)

Runbook Automation สามารถช่วยตอบโจทย์เหล่านี้ได้ด้วยการทำให้เกิดรูปแบบของ Operations as a Service ให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานหรือสั่งงานที่ซับซ้อนด้วย Self-service Automation ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญในทุกกระบวนการ เมื่อผู้ใช้งานต้องการทำงานหรือสั่งงานที่ซับซ้อน เช่น Restart ระบบที่มีปัญหา หรือการ Update Patch ที่ซับซ้อน หรือการ Provision ระบบหรือเพิ่มทรัพยากรณ์ระบบ หรือการตรวจสอบระบบต่าง ๆ พวกเขาสามารถเรียกใช้ Self-service Automation ที่เป็นส่วนหนึ่งของ Operations as a Service ได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญในการดำเนินงาน

 

การใช้ Runbook Automation เพื่อให้เกิดระบบ Operations as a Service ทำให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานหรือสั่งงานได้เอง โดยมีการออกแบบและกำหนดกระบวนการที่เป็นรูปแบบมาตรฐาน ทำให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานหรือสั่งงานได้อย่างรวดเร็วและสะดวก โดยไม่ต้องรอการดำเนินงานจากผู้เชี่ยวชาญและไม่ต้องใช้เวลาและทรัพยากรในการสื่อสารหรือฝึกอบรมในการทำงานที่ซับซ้อน

นอกจากนั้น Operations as a Service สามารถทำให้งานที่ต้องใช้คนทำกลายเป็นงานที่ดำเนินการโดยอัตโนมัติแล้ว ในขณะเดียวกันการความคุมทางด้านความปลอดภัยก็ยังสามารถทำได้อย่างเต็มที่ ทั้งในส่วนของการตรวจสอบและการบริหารจัดการ

ลดการลงทุนด้วยการใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีอยู่เดิม

PagerDuty Rundeck ไม่ได้เข้ามาทดแทนเครื่องมือ, สคริปต์, การเรียกใช้ API หรือ Command Line ที่คุณใช้งานอยู่ในปัจจุบัน แต่มีหน้าที่เป็นตัวกลางในการทำให้กระบวนการทำงานเดิม ๆ กลายเป็นขั้นเป็นตอนการทำงานโดยอัตโนมัติโดยใช้สิ่งที่คุณมีอยู่แล้ว เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณสามารถสร้างและจัดการ Runbook หรือขั้นตอนการทำงานที่ซับซ้อนได้อย่างรวดเร็วและอัตโนมัติ โดยทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อระหว่างคนกับเครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินงาน นั่นคือ “Human-to-tool” หรือการสื่อสารระหว่างมนุษย์กับเครื่องมือต่างๆ

ความสามารถของ PagerDuty Rundeck

การที่เป็นศูนย์กลางของระบบต่างๆ Runbook Automation จะเป็นส่วนที่ใช้ในการเชื่อมต่อรูปแบบการทำงานโดยเชื่อมระหว่างคนและเครื่องมือ ไปยังระบบต่างๆ ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องมีความสามารถที่สำคัญในการเชื่อมต่อกับระบบที่องค์กรต่างๆใช้อยู่

  • เป็นจุดเชื่อมต่อสำหรับระบบ Automation — เป็นจุดเชื่อมต่อที่สามารถเชื่อมต่อระบบใดๆ สคริปต์ใด ๆ เครื่องมือหรือ API เข้าสู่เวิร์กโฟลว์ โดยสามารถใช้งานได้กับภาษาสคริปต์ใด ๆ หรือเครื่องมือต่างๆ และช่วยให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จากของภายในองค์กรที่มีอยู่ของคุณ ซึ่งจะช่วยลดการลงทุนและสามารถใช้งานทักษะที่มีอยู่แล้วได้อย่างดี เช่น หากมีทีมใดทีมหนึ่งใช้งาน Ansible สามารถใส่ Runbook เข้ามาใน Playbook ได้เลย หรือ หากทีมอื่นใช้งานเป็น PowerShell ทั้งหมด สามารถวางสคริปต์เหล่านั้นลงไปใน Runbook ได้ทันที ระบบ Runbook Automation จะให้คุณสามารถใช้งานสิ่งที่คุณมีอยู่แล้ว รวมถึงพวก Command Line ซึ่งสามารถใส่เข้ามาใน Runbook ได้โดยง่าย เพียงเท่านี้คุณก็สามารถเริ่ม Workflow ได้ทันที
    • นอกจากนั้น ระบบยังมี Pre-built Integration ที่สามารถเชื่อมต่อกับ Tools และ Technology ต่างที่องค์กรมีเพื่อให้สามารถใช้งานร่วมกันโดยไม่จำเป็นจะต้องลงทุนปรับเปลี่ยนระบบเดิมเพิ่มเติมในการทำระบบ Automation
  • ใช้งานได้ง่ายและปลอดภัย — ให้ผู้ใช้เข้าถึงระบบได้โดยง่ายอย่างปลอดภัยและควบคุมได้ ความสามารถนี้แบ่งออกเป็นสองส่วน คือ การควบคุมการเข้าถึงและการใช้งาน
    • คุณสมบัติการควบคุมการเข้าถึงสามารถจำกัดสิ่งที่ผู้ใช้ได้รับอนุญาตให้ทำและจัดให้มีการตรวจสอบและรายงานที่ชัดเจน
    • ในด้านการใช้งานจะเน้นที่การใช้งานที่ง่าย มีระบบช่วยแนะนำผู้ใช้และลดความจำเป็นของการฝึกอบรมเพื่อให้คุณสามารถเริ่มใช้งาน Runbook Automation ได้เร็วขึ้น ตัวอย่างคุณสมบัติการใช้งาน ได้แก่ ตัวเลือกการใช้งานที่ปรับเปลี่ยนได้, การตรวจสอบการใส่ข้อมูลของผู้ใช้, การจัดรูปแบบ/การประมวลผลในส่วนของผลลัพธ์ การจัดการข้อผิดพลาด และการแจ้งเตือนตามเงื่อนไขที่กำหนดเป็นต้น
  • Dynamic Infrastructure Map – ระบบ Infrastructure และซอฟต์แวร์ในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่ว่าคุณจะทำอะไรคุณต้องรู้ถึงสถานที่และสถานะของสิ่งที่คุณต้องทำ ระบบ Dynamic Infrastructure Map จะช่วยติดตามรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงโดยประสานข้อมูลกับระบบอื่นๆที่มีข้อมูล เช่น CMDB, ระบบ Configuration Management, Cloud/VM Manager, Monitoring Tools และอื่นๆ ซึ่งจะทำให้ระบบการทำงานอัตโนมัติของคุณมีการ Update ตลอดเวลาและไม่เกิดความผิดพลาด

PagerDuty Rundeck มีกี่ประเภท ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง

ในปัจจุบัน Rundeck เป็นบริษัทที่อยู่ภายใต้ Pagerduty Inc. และมีการเปลี่ยนชื่อสำหรับ Commercial Product จาก Rundeck เป็น PagerDuty ในปัจจุบันประกอบไปด้วย 2 กลุ่มและ 3 ผลิตภัณฑ์ดังต่อไปนี้

  • Commercial Edition
    • PagerDuty Process Automation On Prem
      • เป็นระบบสำหรับ On Premise คือ จะสามารถทำการติดตั้ง Server ไว้บน Datacenter ขององค์กร ซึ่งจะมีความสามารถในการทำ High Availability และความสามารถที่เพิ่มเติมจาก Community Edition เพิ่มเติม
    • PagerDuty Runbook Automation
      • เป็นระบบ SaaS-Based ที่จะอยู่บน Cloud Service ช่วยให้สามารถใช้งานระบบ Automation ได้ทันที และสามารถเชื่อมต่อทำ Automation แบบ Cloud-to-Cloud ได้อย่างง่ายดาย
    • Community Edition
      • Rundeck Community Edition
        • เป็นระบบที่ติดตั้งบน On Premise และไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถติดตั้งได้ฟรี แต่จะขาดความสามารถทางด้าน Enterprise เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นใช้งาน Runbook Automation

ความคุ้มค่าการลงทุน (ROI) ของระบบ PagerDuty Rundeck

การคำนวณ ROI ของระบบจะขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่ใช้ร่วมกับ Runbook Automation โดยทั่วไปจะมีงานอยู่ 2 ประเภทที่เกี่ยวข้องและนิยมใช้งาน คือ การแก้ไขปัญหาเหตุการณ์ (Incident Response) และการจัดการคำขอใช้บริการ (Service Request)

การแก้ไขปัญหาเหตุการณ์ (Incident Response)

  • แก้ปัญหาได้รวดเร็ว – ด้วยการตอบสนองต่อปัญหาที่รวดเร็วขึ้นและช่วยให้ทีมงานต่างๆสามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเองและแก้ไขปัญหาได้ในทันที ทำให้ความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นลดลง
  • ลดการส่งต่อปัญหา (Escalation) –การใช้งาน Runbook Automation ร่วมกับระบบ Incident Management หรือระบบ Helpdesk ช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบและแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเองและลดการพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านและที่สำคัญลดระยะเวลาของปัญหาลงไปได้
  • ลดชั่วโมงการทำงานแก้ไขปัญหา – เมื่อเวลาในการแก้ไขปัญหาและการส่งต่อปัญหาลดลง เจ้าหน้าที่จะสามารถใช้เวลาที่เหลือไปทำงานในส่วนอื่นทีมีประโยชน์กับองค์กรได้มากขึ้น ทำงาน productivity ขององค์กรดีขึ้นในภาพรวม

การจัดการคำขอใช้บริการ (Service Request)

  • เวลาการรอลดลง – ระบบ Runbook Automation สามารถทำงานของการร้องขอได้โดยอัตโนมัติ ทำให้ลดการพึ่งพาแรงงานและทำให้เกิดความพึ่งพอใจในการให้บริการกับผู้ใช้งาน
  • การหยุดชะงักของงานน้อยลง – Runbook Automation สามารถลดการพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะกับงานที่มีการทำงานซ้ำๆลงได้ทั้งหมด ซึ่งจะทำให้การทำงานและการตอบสนองต่อการร้องขอต่างๆเป็นไปได้ด้วยความรวดเร็วและเป็นอัตโนมัติ ทำให้ธุรกิจขององค์กรลื่นไหลไม่มีการสะดุดรอ

ทำไมคุณควรใช้ PagerDuty Rundeck และมีประโยชน์อย่างไร?

  1. ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีอยู่เดิม

องค์กรสามารถใช้งานระบบ Automation ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ เนื่องจาก Rundeck สามารถนำไปใช้กับสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องมือ สคริปต์ การเรียก API หรือ Command line ที่มีอยู่ขององค์กร ดังนั้นจึงช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายสำหรับธุรกิจได้มาก เนื่องจากไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนหรือแก้ไขระบบเพียงเพื่อใช้งานระบบอัตโนมัติ

  1. วิเคราะห์และแก้ไขปัญหาได้เร็วขึ้น

ด้วยความสามารถมากมายและมี API จาก Rundeck ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจัดการขั้นตอนการวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วปลอดภัย Rundeck สามารถช่วยลดการเข้ามาแทรกแซงของคนหรือไม่จำเป็นที่จะต้องใช้คนในการทำงานได้อย่างสิ้นเชิง เนื่องจาก Rundeck มีความสามารถในการเข้ามาช่วยจัดการแก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเอง ซึ่งงานเหล่านี้ เดิมจะต้องใช้คนในการเข้ามาแก้ไขและดำเนินการก็ไม่มีความจำเป็นต่อไป

  1. เพิ่มความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน

เมื่อระบบ Rundeck สามารถลดการการเข้าถึงระบบต่างๆ ของคนและให้ระบบ Automation ทำงานแทน จะช่วยลดความเสี่ยงของความปลอดภัยโดยรวมจากการที่จะต้องกำหนดสิทธิเข้าถึงระบบต่างๆให้กับผู้ใช้งานจำนวนมาก และลดงานทางด้านความปลอดภัยพร้อมทั้งลดสิทธิที่ไม่จำเป็นออกจากผู้ใช้งานต่างๆได้

นอกจากนั้น ระบบ Rundeck ยังสามารถกำหนดสิทธิและกำหนดการเข้าถึงระบบต่างๆ ได้อย่างดี การเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการเข้าสู่หน้า Admin Portal จะถูกรายงานทันทีไปยังผู้มีอำนาจตัดสินใจซึ่งสามารถระบุตัวผู้กระทำความผิดได้อย่างง่ายดาย

  1. ลดความผิดพลาดและเพิ่มความรวดเร็วในการปฏิบัติงาน

ความต้องการหลักของระบบ Automation คือสามารถเพิ่มความรวดเร็วในการปฏิบัติงานและลดความผิดพลาดของคนให้ได้มากที่สุด ซึ่ง Rundeck สามารถช่วยให้องค์กรสามารถทำในสิ่งนี้ได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้น ยังช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานได้ด้วยตัวเองซึ่งจะเพิ่มความรวดเร็วและลดเวลาในการรอคอยหรือต้องมีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมากได้เป็นอย่างดี

สำหรับผู้ที่สนใจใน PagerDuty Rundeck (Process Automation) สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.askme.co.th/products/automation-system/rundeck-enterprise/ หรือติดต่อ

บจก. อาซ์คมี โซลูชั่น แอนด์ คอนซัลแทนท์ โทร: 0-2245-1335-7 Website: http://www.askme.co.th/