หน้าแรก Home feature เตือนนายจ้างระวังลูกจ้างเก่า ! ใช้ช่องทางไซเบอร์เพื่อแก้แค้นคืนองค์กร

เตือนนายจ้างระวังลูกจ้างเก่า ! ใช้ช่องทางไซเบอร์เพื่อแก้แค้นคืนองค์กร

แบ่งปัน

การเปลี่ยนลูกจ้างนับเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจ แต่ในบางกรณีก็ส่งผลร้ายที่แสนเจ็บปวดได้ ลูกจ้างเก่าที่ออกจากบริษัทไปแล้วอาจสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงและการเงินของบริษัทได้เช่นกัน แคสเปอร์สกี้ แลป ขอยกเหตุการณ์และวิธีป้องกันลูกจ้างเก่าที่หมายแก้แค้นทางไซเบอร์ต่อบริษัท ดังนี้

พาสเวิร์ดมูลค่า 2 แสนเหรียญสหรัฐ

ในปี 2016 นายทริโน วิลเลียมส์ ทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีได้ยื่นเอกสารร้องเรียนต่อนายจ้าง คือ สถาบันAmerican College of Education เรื่องการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ จากนั้นไม่นานก็มีคำสั่งโยกย้ายให้ไปทำงานที่ออฟฟิซในเมืองอื่นซึ่งนายทริโนได้ปฏิเสธคำสั่งนี้เพราะได้แจ้งเงื่อนไขการทำงานทางไกล หรือ teleworking ตั้งแต่แรกเข้าทำงาน ท้ายที่สุดนายทริโนก็ต้องออกจากงานและแม้จะได้รับสินไหมทดแทนก็ไม่พอใจอย่างมาก จึงตัดสินเอาคืนนายจ้างด้วยการเปลี่ยนพาสเวิร์ดของบัญชี Google ทำให้สถาบันไม่สามารถเข้าใช้งานบัญชีเพื่อส่งอีเมลและเอกสารให้นักเรียนกว่า 2 พันคนได้

นายทริโนอ้างว่าพาสเวิร์ดนี้เซฟอัตโนมัติเองในแล็ปท็อปที่ใช้ทำงานของเขา ซึ่งได้ส่งคืนหลังจากถูกไล่ออกทันที แต่ทางนายจ้างระบุว่า นายทริโนลบข้อมูลทุกอย่างในเครื่องทั้งหมดก่อนส่งคืน

นายจ้างจึงได้ติดต่อ Google เพื่อขอกู้คืนบัญชีนี้ แต่กลายเป็นว่าบัญชีอีเมลนี้จดทะเบียนเป็นบัญชีส่วนบุคคลของนายทริโน ไม่ใช่บัญชีของสถาบัน ทนายของนายทริโนได้กล่าวเป็นนัยๆ ว่า นายทริโนอาจจะจำพาสเวิร์ดได้หากสถาบันจ่ายเงิน 2 แสนเหรียญ พร้อมจดหมายรับรองการทำงานในแง่บวก

การโจมตีต่อหน้าต่อตา

นายริชาร์ด นีล ผู้ก่อตั้งร่วมและอดีตผู้อำนวยการฝ่ายไอทีของบริษัทด้านความปลอดภัยไอทีชื่อ Esselarต้องออกจากบริษัทแบบจบไม่สวยและใช้เวลานาน 6 เดือนเพื่อวางแผนแก้แค้นเพื่อให้เพื่อนร่วมงานเก่าเสียชื่อเสียง นายริชาร์ดรอถึงวันที่บริษัท Esselar ถึงกำหนดสาธิตเซอร์วิสให้ลูกค้ารายใหญ่ชื่อ Aviva ในวันนั้นเองนายริชาร์ดได้แฮ็กโทรศัพท์มือถือของพนักงานบริษัท Aviva กว่า 900 เครื่องและลบข้อมูลทั้งหมด

เหตุการณ์นี้ทำให้ Aviva ยกเลิกธุรกิจและเรียกร้องเงิน 7 หมื่นปอนด์เป็นค่าเสียหาย แต่มูลค่าความเสียหายโดยรวมทั้งด้านชื่อเสียงและโอกาสทางธุรกิจของ Esselar นั้นคาดว่าสูงถึง 5 แสนปอนด์ ทำให้บริษัทต้องดำเนินการปรับเปลี่ยนแบรนด์เพื่อความอยู่รอด

การลบข้อมูลฉับไวและเสียหายสาหัส

ไม่เพียงแต่ลูกจ้างเก่าเท่านั้นที่อันตราย อีกเหตุการณ์หนึ่งที่น่าสนใจนั้นเกิดจากพนักงานที่สงสัยว่าตัวเองจะโดนไล่ออก นางสาวแมรี่ ลูเป้ คูลี่ ผู้ช่วยผู้อำนวยการของบริษัทสถาปนิกแห่งหนึ่ง ได้บังเอิญไปเห็นประกาศรับสมัครงานในตำแหน่งของเธอ ซึ่งมีข้อมูลให้ติดต่อเจ้านายของเธอหากสนใจสมัครงาน

นางสาวแมรี่คาดว่าตัวเองกำลังจะโดนไล่ออก จึงได้ลบข้อมูลโครงการต่างๆ ย้อนหลังไปถึง 7 ปีทิ้งหมด ทำให้บริษัทเสียหายราว 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่แท้จริงแล้ว ประกาศรับสมัครงานนั้นเป็นประกาศของบริษัทอื่นที่คู่สมรสของเจ้านายฝากให้ติดต่อแทนนั่นเอง