หน้าแรก Security Malware สถิติเผย การโจมตีแบบแรนซัมแวร์ปี 2020 ในอาเซียนลดลง

สถิติเผย การโจมตีแบบแรนซัมแวร์ปี 2020 ในอาเซียนลดลง

แบ่งปัน

แคสเปอร์สกี้ รายงานว่าในปี 2020 จำนวนความพยายามในการโจมตีธุรกิจ SMB ด้วยแรนซัมแวร์ลดลงอย่างมากในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อเทียบกับปี 2019 จากรายงาน Kaspersky Security Network (KSN) ฉบับล่าสุด ระบุว่ามีความพยายามในการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์น้อยกว่าหนึ่งล้านครั้ง (804,513 ครั้ง) ในปี 2020 ซึ่งน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของปี 2019 ซึ่งมีการตรวจจับได้มากกว่า 1.9 ล้านครั้ง

ในบรรดาหกประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีเพียงสิงคโปร์เท่านั้นที่มีจำนวนการตรวจจับแรนซัมแวร์ที่เพิ่มขึ้น โดยมีการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 2,275 ครั้งในปี 2019 เป็น 3,191 ครั้งในปี 2020 แม้ว่าอินโดนีเซียจะมียอดการตรวจจับแรนซัมแวร์สูงสุดในภูมิภาคและอยู่ในอันดับที่ 5 ของโลก แต่ปริมาณการตรวจจับปีก่อนจำนวน 1,158,837 ครั้งนั้นลดลงเหลือ 439,473 ครั้ง แนวโน้มของเหตุการณ์โจมตีด้วยแรนซัมแวร์ที่ลดลงพบได้ในประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเช่นกัน ได้แก่ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และไทย

นายเฟเดอร์ ซินิตซิน นักวิจัยด้านความปลอดภัย แคสเปอร์สกี้ กล่าวว่า “เมื่อได้ดูสถิติของแรนซัมแวร์แต่ละตระกูล พบจำนวนการตรวจจับโดยรวมที่ลดลง ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากจำนวนการตรวจจับ WannaCry ที่ลดลง ซึ่งตระกูล WannaCry นี้เป็นสัดส่วนสำคัญของแรนซัมแวร์ที่ตรวจพบทั้งหมด เนื่องจากผู้สร้างแรนซัมแวร์ไม่ได้รับการสนับสนุนมานานกว่าสามปีและมีสถานะเป็นซอมบี้”

การโจมตีของแรนซัมแวร์อาจลดลง แต่แคสเปอร์สกี้ได้ออกคำเตือนถึงบริษัททุกรูปแบบและทุกขนาด เรื่องกิจกรรมที่เพิ่มขึ้นของ “Ransomware 2.0” หรือแรนซัมแวร์แบบกำหนดเป้าหมาย

นายโยว เซียง เทียง ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แคสเปอร์สกี้ กล่าวว่า “เราไม่ควรนิ่งนอนใจกับปริมาณการตรวจจับแรนซัมแวร์ที่ลดลง ตั้งแต่ปีที่แล้วเราได้ติดตามวิวัฒนาการของภัยคุกคามนี้ ปัจจุบันเราต้องกังวลกลุ่มแรนซัมแวร์ในเรื่องคุณภาพมากกว่าปริมาณ จากที่เคยหว่านมัลแวร์สุ่มสี่สุ่มห้าและรอให้ผู้ใช้ที่ไม่ระวังความปลอดภัยมาติดกับ ผู้โจมตีได้เปลี่ยนใช้วิธีการรุนแรงและพุ่งเป้าเจาะจงไปที่เหยื่อมากขึ้น”

“กลุ่มแรนซัมแวร์ที่กำหนดเป้าหมายเพียงกลุ่มเดียวสามารถรุกล้ำบริษัทมากกว่า 61 แห่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเมื่อปีที่แล้ว และด้วยการเร่งให้เกิดดิจิทัลของธุรกิจในภูมิภาคนี้ เรายังคาดการณ์ว่าความซับซ้อนเบื้องหลังวิธีการโจมตีจะเพิ่มขึ้น SMB และองค์กรต่างๆ ควรพิจารณาเทคโนโลยีที่ใช้ข้อมูลอัจฉริยะอย่างจริงจัง เพื่อการป้องกัน การตรวจจับ และการตอบสนองระดับเอ็นด์พอยต์” นายโยวกล่าวเสริม