ถ้าคุณต้องทำงานกับเซิร์ฟเวอร์ลีนุกซ์หลายเครื่องแล้ว คุณก็คงอยากคอยติดตามสถานะของเครื่องตัวเองทั้งหลายจากศูนย์กลางเดียวกัน แต่ทว่าคุณเองก็คงไม่อยากติดตั้งแอพพลิเคชั่นหรือเซอร์วิสเพิ่มเติมที่ซับซ้อนเพื่อการนี้โดยเฉพาะ จริงไหม?
นี่จึงเป็นที่มาของแอพ Servercat ที่สามารถนำมาติดตั้งบนเครื่องได้ทั้งแพลตฟอร์ม macOS หรือ iOS แล้วใช้ส่องทั้งเครื่องเซิร์ฟเวอร์ลีนุกซ์ หรือแม้แต่คอนเทนเนอร์ของคุณว่ากำลังทำงานอย่างไรได้
ระบบนี้ใช้กลไกการเชื่อมต่อผ่าน SSH มาตรฐานทั่วไป ที่เปิดให้คุณเชื่อมกับเซิร์ฟเวอร์กี่เครื่องก็ได้ตามต้องการ Servercat จะคอยแสดงค่าสถานะผ่านอินเทอร์เฟซที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี มีแท๊บข้อมูลประเภทต่างๆ เกี่ยวกับประสิทธิภาพของแต่ละคอนเทนเนอร์ ได้แก่
• การใช้หน่วยความจำ
• ความจุที่ใช้
• โปรเซสที่รันอยู่
• ข้อมูลด้านเครือข่าย
• เปอร์เซ็นต์การใช้งานซีพียู
• พาทิชั่นต่างๆ
เวอร์ชั่นฟรีของ Servercat ให้คุณเรียกดูข้อมูลตัวเลขเกี่ยวกับคอนเทนเนอร์ แต่ถ้าจ่ายค่าสมาชิก (รายปี 5.99 เหรียญสหรัฐฯ หรือซื้อขาดแค่ 17.99 เหรียญฯ) ก็สามารถเทอมินัลผ่าน SSH, รันแบช, Snippet, หรือแม้แต่ซิงค์ผ่าน iCloud ได้ด้วย
ลองมาดูกันว่าการติดตั้ง Servercat และเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ลีนุกซ์นั้น ง่ายมากขนาดไหน
การติดตั้ง Servercat
เรามาดูการสาธิตการติดตั้งบน macOS Monterey กัน แม้กระบวนการควรจะเหมือนเดิมไม่ว่าจะใช้โอเอสเวอร์ชั่นอะไร เริ่มจาก:
1. ล็อกออนเข้า macOS
2. เปิด App Store
3. เสิร์ชหา Servercat
4. คลิก Get
5. คลิก Install
6. ถ้ามีกล่องข้อความขึ้นถามรหัส ให้กรอกรหัสตัวเองไป
จากนั้นก็น่าจะติดตั้งได้เรียบร้อย
วิธีเพิ่มเซิร์ฟเวอร์เข้า Servercat
เปิดโปรแกรม Servercat จากตัว Launchpad จากนั้นคลิกเมนู Host จากแผงด้านซ้าย (ตามภาพที่ 1)
![](https://www.enterpriseitpro.net/wp-content/uploads/2022/05/servercat1.jpg)
คลิกปุ่ม + ที่มุมบนขวา จากนั้นป้อนข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโฮสต์นั้นๆ (ตามภาพที่ 2)
![](https://www.enterpriseitpro.net/wp-content/uploads/2022/05/servercat2.jpg)
หลังจากป้อนข้อมูลที่จำเป็นกับการเชื่อมต่อแล้ว คลิกปุ่ม Save เพื่อแอดเข้าระบบ จากนั้นลองคลิกที่ Status เพื่อตรวจดูว่าขึ้นในรายการแล้ว (ภาพที่ 3)
![](https://www.enterpriseitpro.net/wp-content/uploads/2022/05/servercat3.jpg)
ถ้าคุณดับเบิลคลิกที่เครื่องโฮสต์ ก็จะเห็นข้อมูลเพิ่มเติมของโฮสต์นั้นๆ (ภาพที่ 4)
![](https://www.enterpriseitpro.net/wp-content/uploads/2022/05/servercat4.jpg)
ถ้าโฮสต์ดังกล่าวเป็นคอนเทนเนอร์ ก็ไม่จำเป็นต้องตั้งค่าอะไรเพิ่มเติม แค่คลิกเมนู Containers ก็จะเห็นข้อมูลที่ต้องการแล้ว (ภาพที่ 5) แต่ถ้าคุณใช้เวอร์ชั่นฟรี ก็จะเรียกดูข้อมูลได้แค่ที่กล่าวมาข้างต้น
![](https://www.enterpriseitpro.net/wp-content/uploads/2022/05/servercat5.jpg)
เห็นไหมว่าแค่ติดตั้ง Servercat ก็สามารถติดตามสถานะของเซิร์ฟเวอร์ลีนุกซ์ได้อย่างครบครัน แค่เพิ่มโฮสต์เข้ามาเรียกดูข้อมูล หรือถ้าต้องการใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น ก็ลองพิจารณาสมัครเวอร์ชั่นพรีเมียม ที่เปิดให้คุณทำได้เยอะขึ้นมาก โดยเฉพาะการจัดการคอนเทนเนอร์ Docker
ที่มา : ZDNet
//////////////////