หน้าแรก Cloud 4 ข้อดี ที่องค์กรต่างยอมรับให้ AIS เป็นผู้จัดหาและติดตั้งผลิตภัณฑ์ไมโครซอฟท์

4 ข้อดี ที่องค์กรต่างยอมรับให้ AIS เป็นผู้จัดหาและติดตั้งผลิตภัณฑ์ไมโครซอฟท์

แบ่งปัน

ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ได้มีการผลักดันและส่งเสริมให้องค์กรต่างๆ ได้มีการใช้งานเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงของทางไมโครซอฟท์มาอย่างต่อเนื่อง โดยองค์กรต่างทราบกันดีอยู่แล้วว่า AIS คือพาร์ทเนอร์ที่สำคัญของไมโครซอฟท์ในระดับที่เรียกว่า CSP (Cloud Solution Provider) และได้จัดหาและติดตั้งระบบ Microsoft Azure รวมทั้งบริการอื่นๆ ของไมโครซอฟท์อีกมากมาย ให้กับผู้ใช้งานไปเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น Microsoft 365 Security Solution, Dynamics 365 หรือแม้กระทั่งเซอร์วิส Windows Virtual Desktop (VDI) เป็นต้น

โดย AIS ได้รับการชื่มชนและได้รับการยอมรับถึงการบริการที่ยอดเยี่ยมไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความรู้ความเข้าใจที่มีต่อผลิตภัณฑ์ไมโครซอฟท์, ทีมงานที่ได้รับการรับรอง (ได้รับ Certificate), บริการการสนับสนุนหลังการขายที่แข็งแกร่ง จนทำให้ AIS กลายเป็นพาร์ทเนอร์ของไมโครซอฟท์ทีมีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก และล่าสุด AIS ยังได้รับความไว้วางใจเพิ่มเติมจากไมโครซอฟท์ในการเป็นพาร์ทเนอร์ในระดับ Licensing Solution Partner หรือ LSP เพิ่มขึ้นอีกด้วย

ข้อดีที่เลือก AIS เป็นผู้จัดหาบริการไมโครซอฟท์ให้คุณ
Advertisement

ในปัจจุบันมีพาร์ทเนอร์ผู้ให้บริการและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์เป็นจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตามพาร์ทเนอร์เหล่านั้นมีความแตกต่างกันไป โดยส่วนใหญ่แล้วบางรายไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรที่มีต่อผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์ได้อย่างครอบคลุม นั่นจึงเป็นคำตอบที่ว่า AIS สามารถช่วยองค์กรของคุณในประเด็นดังกล่าวนี้อย่างเต็มที่

AIS เป็นผู้ให้บริการในส่วนผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์มาตั้งแต่ปี 2017 โดยเปิดให้บริการเซอร์วิสของไมโครซอฟท์ในหลายๆ อย่าง โดยข้อมูลต่อไปนี้จะแสดงให้คุณเห็นถึงขีดความสามารถขั้นสูงของ AIS ที่ส่งผลให้องค์กรในทุกขนาดต่างเชื่อมั่น และได้ตัดสินใจมาใช้บริการผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของไมโครซอฟท์จากทาง AIS เป็นหลัก

01 – ความเป็นพันธมิตรด้านเครือข่าย (Network Partnership)
AIS มีความแข็งแกร่งในแง่ของโครงข่ายเป็นอย่างสูง สามารถให้บริการในส่วนของ Microsoft Edge Node โดยครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งมี PoP อยู่ในต่างประเทศมากถึง 5 จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น มาเลเซีย, สิงคโปร์, ฮ่องกง, สหราชอาณาจักร และ สหรัฐอเมริกา ช่วยให้ผู้ใช้งานที่ต้องการใช้ระบบไฮบริดคลาวด์ ร่วมกับเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ต่างประเทศ ผ่านระบบโครงข่ายของ AIS ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าโครงข่ายอื่นทั่วไป

นอกจากนั้นแล้ว AIS ยังให้บริการในส่วนของ ExpressRoute ด้วยเช่นกัน ซึ่งบริการ ExpressRoute นี้เปรียบเสมือนทางด่วนพิเศษ ที่ทำให้องค์กรสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายของลูกค้าของตน ไปยังเครือข่ายของไมโครซอฟท์ได้ โดยมีการการันตีประสิทธิภาพของเครือข่ายดังกล่าวให้กับลูกค้าด้วย

02 – เป็นพาร์ทเนอร์แบบ CSP (Cloud Solution Provider)
AIS ได้รับความไว้วางใจจากไมโครซอฟท์ให้เป็นพาร์ทเนอร์ในแบบ CSP และมีลักษณะเป็นแบบ Direct Channel โดยลูกค้าสามารถที่จะเลือกใช้บริการและผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์ ที่เป็น Online Service ผ่านทาง AIS โดยตรงและ AIS ก็จะติดต่อกับทางไมโครซอฟท์โดยตรงในทันที สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ การตอบสนองและดูแลลูกค้าในการให้บริการผลิตภัณฑ์จะทำได้ดีกว่า และนอกจากให้บริการ Microsoft license แล้ว AIS ยังมี การ update ความรู้ เทคนิคในการใช้งาน รวมถึงการดูแล การบริหารจัดการ MS Online Service license ที่มี อย่างต่อเนื่องผ่านทาง กิจกรรม “Cloud Jump” เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจ และคุ้มค่าที่สุด

บริการของไมโครซอฟท์ที่ AIS เป็นผู้จัดหาและติดตั้งนั้นมีเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์

  • Microsoft Azure
  • Office 365
  • Microsoft 365
  • Microsoft 365 Security Solution
  • Dynamics 365
  • Windows Virtual Desktop (VDI)
  • และอื่นๆ

รวมไปถึงโซลูชั่นสำหรับนักพัฒนา ไม่ว่าจะเป็น Power Apps, และ Power Platform ฯลฯ โดยจุดแข็งที่สำคัญที่ทำให้องค์กรต่างหันมาเลือก AIS เป็นผู้จัดหาบริการของไมโครซอฟท์ ก็เนื่องด้วยทีมงานของ AIS นั้น มีความรู้ความเชี่ยวชาญเป็นอย่างสูง โดยได้รับ Certificate จากไมโครซอฟท์เป็นจำนวนมาก อาทิ Azure Migration, Azure Solution Design, Azure Iaas, Office 365, Azure Web App Service, Azure Paas SQL เป็นต้น สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงระดับสูง ให้บริการแบบ 24×7 และสามารถที่จะติดต่อ AIS ได้โดยตรงหากเกิดติดขัดปัญหาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์

03 – จัดการเอกสารด้านบิลลิ่งได้ดีกว่า (Integrated Billing)
สิ่งหนึ่งที่ทำให้องค์กรเลือกใช้บริการไมโครซอฟท์โดยมี AIS เป็นผู้ให้บริการจัดหาและติดตั้งนั้น ก็คือ ประเด็นของเอกสารด้านการเงิน โดยที่ AIS สามารถที่จะออกเอกสารการชำระเงิน และเอกสารประเภทใบกำกับภาษีต่างๆ ให้องค์กรได้ โดยมีความแตกต่างจากองค์กรที่ใช้บริการที่เลือกชำระเงินตรงไปยังไมโครซอฟท์ (เป็นวิธีการหักเงินจากบัตรเครดิต) ซึ่งในกรณีนี้ทางไมโครซอฟท์จะไม่สามารถออกเป็นใบกำกับภาษีได้ และสุดท้ายองค์กรนั้นก็ไม่สามารถนำเอาค่าใช้จ่ายเหล่านั้นไปหักลดหย่อนภาษีขององค์กรได้

สำหรับ AIS นั้น ได้เข้ามาแก้ไขและช่วยเหลือในประเด็นดังกล่าวนี้ โดยสามารถออกเอกสารด้านการเงินให้กับองค์กรที่ใช้บริการของไมโครซอฟท์ผ่านทาง AIS ได้ในทันที ซึ่งเอกสารนั้นจะออกในนามของ AIS ทำให้องค์กรนำเอกสารเหล่านี้ไปเพื่อดำเนินการด้านลดหย่อนภาษีได้ต่อไป

นอกจากนั้นแล้ว AIS ยังได้พัฒนาเครื่องมือที่ชื่อว่า Azure Cost Control Center เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้องค์กรสามารถเห็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงจากการใช้งานบริการคลาวด์ของไมโครซอฟท์ ทำให้องค์กรสามารถกำหนดระดับของการใช้งานสำหรับแผนกหรือส่วนงานต่างๆ เพื่อไม่ให้เกินเกณฑ์ที่กำหนดในการใช้งาน หากมีการใช้งานเกินเกณฑ์ที่กำหนด ตัวระบบจะส่งข้อมูลแจ้งเตือนให้กับผู้ดูแลให้ทราบในทันที

04 – ได้รับความไว้วางใจเป็น LSP (Licensing Solution Partner)
ด้วยความสามารถในการให้บริการของ AIS ทำให้ในปีนี้ไมโครซอฟท์ได้พิจารณายกระดับลำดับขั้นพาร์ทเนอร์ให้กับ AIS ใหม่เป็นแบบ Licensing Solution Partner หรือ LSP ที่ให้ความแตกต่างจากเดิมเป็นอย่างมาก ถือเป็นผู้ให้บริการในกลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคมรายแรกและรายเดียวในประเทศไทยที่ได้รับความไว้วางใจอย่างเป็นทางการ จากเดิมที่ได้ดูแลในส่วนของผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้องกับคลาวด์เพียงอย่างเดียว แต่ปัจจุบันหลังจากที่ AIS เป็นพาร์ทเนอร์ในระดับ LSP แล้ว จะทำให้มีการขยายขอบเขตในการดำเนินการจัดหาและติดตั้งโซลูชั่นของทางไมโครซอฟท์ได้มากขึ้น

โดย AIS สามารถที่จะให้บริการผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์ต่างๆ ได้มากกว่าเดิม ตัวอย่างเช่น ให้บริการระบบ Windows Server, SQL Server, ระบบ On-premises Software ของไมโครซอฟท์ ทำให้สามารถรองรับการให้บริการครอบคลุมลูกค้าทั้ง Solution แบบ Cloud Online Service license ได้ทั่วถึง ตั้งแต่ระดับ SME จนถึงระดับ Enterprise และสามารถคัดสรร รูปแบบให้ตรงกับความต้องการ ในการใช้งานของลูกค้า เพิ่มทางเลือกในการใช้ Microsoft license ได้ถูกต้อง เหมาะสม และคุ้มค่ากับการลงทุนมากที่สุด ภายใต้ผู้ให้บริการรายเดียว

ความแตกต่างระหว่าง LSP และ CSP

อย่างที่ทราบไปแล้วว่า AIS นั้นเป็นพาร์ทเนอร์กับไมโครซอฟท์มายาวนานในระดับ CSP ซึ่งเงื่อนไขของการให้บริการในระดับนี้จะจัดหาและติดตั้งโซลูชั่นของไมโครซอฟท์ได้ในส่วนผลิตภัณฑ์ทีเกี่ยวข้องกับคลาวด์เท่านั้น และ Protect Priceแบบระยะ 1 ปี (และจะต่ออายุสัญญา) ส่วนไลเซ่นส์ในการให้บริการจะไม่มีขั้นต่ำ แต่อย่างไรก็ตามองค์กรขนาดใหญ่หลายๆ แห่งนั้น (ตัวอย่างเช่น ธุรกิจด้านพลังงาน, สถาบันการเงินการธนาคาร, ธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่) กลับมีความต้องการใช้บริการผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์ในจำนวนไลเซ่นส์ที่มากขึ้น และมีระยะสัญญาในการให้บริการที่ยาวนานขึ้น ทำให้โมเดลในการให้บริการแบบ LSP ของ AIS จึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์มากกว่า เพราะสามารถให้บริการได้มากว่า 500 ไลเซ่นส์ และ Protect price เป็นระยะเวลาในการให้บริการขั้นต่ำ 3 ปี พร้อมกับบริการเพิ่มเติมโดยตรงจาก Microsoft และ ยังได้เข้าร่วมกิจกรรม Cloud Jump ที่มีของ AIS ได้เหมือนที่ CSP มี

ซึ่งหากเปรียบเทียบแล้ว ถ้าองค์กรในระดับ Enterprise ที่มีการใช้งานจำนวนมากๆ สามารถใช้เลือกใช้บริการรูปแบบสัญญาของ LSP จะคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น ในแง่ของการลงทุนในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดหรือการบริการส่วนพิเศษเพิ่มเติมได้ (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและข้อตกลง) แต่ถ้าต้องการใช้งาน Microsoft Online Service แบบ flexible มากขึ้น เพิ่ม-ลด ตามต้องการ ลูกค้าก็ยังสามารถเลือกแบบ CSP ได้เช่นเดียวกัน AIS สามารถรองรับได้ทั้งในแง่ของ ผลิตภัณฑ์ Billing และ บริการ

บทสรุป ! ทำไมต้องเลือก AIS

จากประเด็นในข้างต้นทำให้ทราบถึงความสามารถของ AIS ในการจัดหาและติดตั้งบริการไมโครซอฟท์ ทีตอบโจทย์ในทุกแง่มุม องค์กรสามารถที่จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ไมโครซอฟท์ ไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มคลาวด์เช่น Microsoft Azure, Office 365, Microsoft 365, Microsoft 365 Security Solution, Dynamics 365, บริการ Windows Virtual Desktop (VDI) หรือ บริการในส่วนของเซิร์ฟเวอร์แบบออนพรีมีสทั้ง Windows Server, SQL Server, On-premises Software ได้อย่างเต็มที่ผ่านทางการให้บริการแบบ LSP ของทาง AIS ที่ถือเป็นเจ้าแรกในกลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคมรายแรกและรายเดียวในไทย

AIS ยังช่วยตอบโจทย์ในด้านของทีมงานผู้เชี่ยวชาญและบริการหลังการขาย ที่คอยสนับสนุนและส่งเสริมการใช้งานผลิตภัณฑ์ไมโครซอฟท์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่การันตีด้วยใบ Certificate มากมายจากทางไมโครซอฟท์ รวมไปถึงพวกเขายังสามารถที่จะออกเอกสารทางด้านการเงินต่างๆ ให้กับลูกค้าองค์กร นำไปใช้ในการดำเนินการจัดการเรื่องภาษีได้อีกด้วย

สำหรับธุรกิจองค์กรที่สนใจสมัครใช้บริการ สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ AIS Business ที่ดูแลองค์กรของท่าน หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ https://business.ais.co.th/ หรือติดต่อ businesscloud@ais.co.th