หน้าแรก Storage Backup Solution IDC เผยยอด “ตลาดสตอเรจ” ประจำไตรมาสแรก นำโดย Dell, NetApp, และ HPE

IDC เผยยอด “ตลาดสตอเรจ” ประจำไตรมาสแรก นำโดย Dell, NetApp, และ HPE

แบ่งปัน

รายได้ของผู้ผลิตสตอเรจประจำไตรมาสแรกของปี 2020 นี้ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เห็นได้จากยอดขายของสามแบรนด์ใหญ่ที่เป็นผู้นำตลาดร่วงลงโดยรวมถึง 17 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกันปีต่อปี อันเป็นผลจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า COVID-19 ไปทั่วโลก

จากการวิเคราะห์ล่าสุดของทาง IDC ที่ระบุในรายงาน Worldwide Quarterly Enterprise Storage Systems Tracker ฉบับล่าสุดนั้นกล่าวว่า 3 บริษัทใหญ่อันได้แก่ Dell Technologies, NetApp, และ Hewlett Packard Enterprise ที่มาพร้อมกับทาง Hitachi Vantara นั้น เมื่อพิจารณาร่วมกับผู้ผลิตสตอเรจรายที่เหลือในตลาดแล้ว พบว่ารายรับของไตรมาสแรกลดลงกว่า 8.2 เปอร์เซ็นต์มาอยู่ที่ 6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า

มีการเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากบริษัทอย่าง Pure Storage และบริษัทของจีนอย่าง Huawei รวมทั้งการเติบโตขึ้นจากเดิมเล็กน้อยของ IBM ท่ามกลางภาวะตลาดโดยรวมที่ร่วงลงมา

ทั้งนี้รายรับรวมของผู้จำหน่ายสตอเรจแบบ OEM ร่วงลงมา 8.2 เปอร์เซ็นต์เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2019 มาอยู่ที่ 6.2 พันล้านดอลลาร์ฯ ขณะที่ยอดขายของ ODM (Original Design Manufacturer) ที่ผลิตเพื่อดาต้าเซ็นเตอร์ระดับไฮเปอร์สเกลขนาดใหญ่โดยตรงนั้นกลับเติบโตขึ้น 6.9 เปอร์เซ็นต์มาอยู่ที่ 4.9 พันล้านดอลลาร์ฯ

สำหรับอุตสาหกรรมสตอเรจโดยรวมนั้นมีกำลังการผลิตที่ลดลงครั้งแรกในรอบหลายปีตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรก โดยกำลังผลิตทั้งหมดของไตรมาสนั้นร่วงลงมา 18.1 เปอร์เซ็นต์มาอยู่ที่ 92.7 เอ็กซาไบต์ ขณะที่ในส่วนของสตอเรจสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์แบบไฮเปอร์สเกลนั้น

ร่วงลงมามากถึง 20 เปอร์เซ็นต์มาอยู่ที่ 54.8 เอ็กซาไบต์ ขณะที่ในส่วนของสตอเรจที่จำหน่ายออกมาจากผู้ผลิตที่ตีแบรนด์นั้นโตขึ้นประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์ มาอยู่ที่ 17.3 เอ็กซาไบต์ แต่ในภาพรวมนั้นถือเป็นไตรมาสที่ยากลำบากสำหรับอุตสาหกรรมสตอเรจ

อันเนื่องมาจากผลกระทบของการแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่า COVID-19 ซึ่งทาง Sebastian Lagana ผู้จัดการฝ่ายวิจัยด้านแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานของ IDC ระบุว่า ส่วนของ ODM กลับมาสร้างการเติบโตได้อีกครั้ง

จากการฉวยประโยชน์ของการเติบโตในระบบไฮเปอร์สเกล ที่คาดว่าจะมีความต้องการอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีแรกของ 2020 จากการที่องค์กรหลายแห่งพยายามเปลี่ยนมาให้ทำงานจากระยะไกลแทน จนทำให้ทุกคนรวมทั้งพนักงานเอง

จำเป็นต้องหันมาใช้ทูลคอลลาบอเรตผ่านคลาวด์ และเครือข่ายสำหรับส่งมอบคอนเท็นต์ที่มั่นใจได้ว่าสามารถรองรับความต้องการบริโภคสื่อบันเทิงแบบสตรีมมิ่งได้ เมื่อมองในด้านเทคโนโลยีแล้ว รายได้จากสตอเรจแบบแฟลชล้วนนั้น

ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญที่แข็งแกร่งของทั้งธุรกิจสตอเรจ ก็มีการเติบโตเล็กน้อยอยู่ที่ 0.4 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2019 โดยมีมูลค่าอยู่ที่ 2.8 พันล้านดอลลาร์ฯ ขณะที่ยอดขายแบบไฮบริดช์แฟลชและแบบจานดิสก์ตกลงมากถึง 11.5 เปอร์เซ็นต์ มาอยู่ที่ 2.5 พันล้านเหรียญฯ

ที่มา : CRN