หน้าแรก Cloud พบกับประสบการณ์การใช้งานคลาวด์แบบสาธารณะบนไพรเวทคลาวด์ ด้วย HPE GreenLake for Private Cloud Enterprise

พบกับประสบการณ์การใช้งานคลาวด์แบบสาธารณะบนไพรเวทคลาวด์ ด้วย HPE GreenLake for Private Cloud Enterprise

แบ่งปัน

ในอดีตนั้น Private Cloud (ไพรเวทคลาวด์) ถูกมองว่าเป็นอะไรที่ติดตั้งและดูแลยาก ทั้งซับซ้อน รวมถึงบางระบบเข้าไปอยู่ในรูปของอุปกรณ์ที่ไม่ค่อยยืดหยุ่น มักใช้งานในลักษณะแบบเวอร์ช่วล แมชชีนที่ลูกค้าจำเป็นต้องดูแลกันเอง รวมถึงต้องลงทุนครั้งแรกในราคาที่แพง แถมไม่ค่อยสะดวกทั้งการจัดการ, เรื่องของค่าใช้จ่ายและการทำรายงานต่างๆ

นั่นจึงทำให้เกิดไพรเวทคลาวด์ในรูปแบบใหม่ ที่จำเป็นต้องง่ายต่อการติดตั้ง, ต้องรองรับการใช้งานในทุกแอปพลิเคชั่น รวมถึงยังต้องให้ความรวดเร็วและความคล่องตัวตามที่เราต้องการ อีกทั้งแสดงให้เห็นถึงตัวเลขค่าใช้จ่ายและ KPI ต่างๆ อย่างชัดเจนและโปร่งใส แถมต้องยืดหยุ่น ด้วยการแยกเป็นโมดูลช่วยให้สามารถขยายระบบได้ง่าย พร้อมวิธีการจัดการง่ายเหมือนพับลิกคลาวด์ ทำให้ให้ฝ่ายไอทีมีเวลาไปกับการแก้ปัญหาทางธุรกิจที่จำเป็นแทน

HPE GreenLake for Private Cloud Enterprise เป็นระบบไพรเวทคลาวด์ ยุคใหม่ที่รองรับเวิร์กโหลดของแอปพลิเคชั่นของคุณทั้งบนฮาร์ดแวร์แบบแบร์-เมทัล, คอนเทนเนอร์, หรือแม้แต่เวอร์ช่วลแมชชีน  ที่ครอบคลุมตั้งแต่ฝั่ง Edge, โคโลเคชั่น, ดาต้าเซ็นเตอร์ในองค์กร, ไปจนถึงการเชื่อมต่อ คลาวด์แบบสาธารณะมาบริหารจัดการในที่เดียว นับเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างการเปิดให้นักพัฒนาเข้าถึงทรัพยากรได้แบบบริการตนเอง ร่วมกับความชัดเจนสำหรับฝ่ายไอทีทั้งด้านปริมาณและประสิทธิภาพการใช้งาน โดยจ่ายตามจริงตามการใช้งานที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือน

ใช้ประโยชน์จากแอปพลิเคชั่นและดาต้าได้เต็มศักยภาพ

ในหลายองค์กรนั้น แอปพลิเคชั่นเก่าๆ กลายเป็นอุปสรรคชิ้นโตที่ขวางการปฏิวัติทางดิจิทัล ซึ่งไพรเวทคลาวด์จะเข้ามาช่วยตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายและมีลักษณะเฉพาะของแอปพลิเคชั่นเหล่านี้ได้ ไม่ว่าจะอยู่ใน วีเอ็ม หรือทำงานบนฮาร์ดแวร์แบบแบร์-เมทัล ก็ใช้ประโยชน์จากแอปพลิเคชั่นพวกนี้ได้เต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องของการบริหารจัดการฮาร์ดแวร์ที่มีความซับซ้อน และใช้เวลามาก  แม้แต่การพัฒนาแอปพลิเคชั่นใหม่อย่างคอนเทนเนอร์ ก็ใช้โซลูชั่นไพรเวทคลาวด์เดียวกันนี้ อำนวยความสะดวกให้นักพัฒนาเข้าถึงทรัพยากรที่ต้องการเพื่อเร่งความเร็วในการพัฒนาได้ โดยไม่เกิดความล่าช้าจากคอขวดที่เกิดจากแอปพลิเคชั่นเก่าทั้งหลาย

ยกระดับประสิทธิภาพไอที และควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีกว่า

สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ องค์กรจะได้รับความคล่องตัวทางธุรกิจตั้งแต่การวางระบบครั้งแรกด้วยการติดตั้งแล้วเสร็จตั้งแต่จากโรงงาน ทำให้ช่วยลดระยะเวลาในการติดตั้งระบบ  ไปจนถึงช่วยเร่งความเร็วในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว มี TCO ต่ำ ไม่ต้องจ่ายเงินลงทุนครั้งแรกที่มีมูลค่าสูง แถมประเมินค่าใช้จ่ายได้แม่นยำตามการเติบโตทางธุรกิจ ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้องค์กรด้วย ROI ที่เยี่ยมยอด ด้วยโมเดลจัดการคลาวด์ที่คุ้นเคยสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดูแล ให้การทำงานของไพรเวทคลาวด์ที่เสถียร และไม่จำเป็นต้องจ้างแรงงานที่มีทักษะเฉพาะที่หายากในยุคนี้มาดูแลเป็นพิเศษ มีระบบจัดการให้อัตโนมัติที่ช่วยดูแลระบบและแพลตฟอร์มบนไพรเวทคลาวด์ได้อย่างครอบคลุม ดูแลได้ตลอดวงจรชีวิตของระบบ ตั้งแต่การค้นหาทรัพยากร การจัดสรร การอัพเดทเฟิร์มแวร์ การบำรุงรักษา การเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ใหม่ การวางแผนรองรับการเติบโต ที่มาพร้อมบริการช่วยเหลือดูแลเต็มที่

ติดตั้งแอปพลิเคชั่นได้อย่างรวดเร็ว พร้อมไล่ตามธุรกิจทันท่วงที

ด้วย HPE GreenLake for Private Cloud Enterprise ผู้ใช้สามารถร้องขอในการจัดสรรวีเอ็ม คอนเทนเนอร์ หรือฮาร์ดแวร์แบบแบร์-เมทัล ได้ด้วยตนเองผ่านหน้าพอร์ทัลที่ใช้ง่าย หรือผ่าน Application Programming Interface (API), CLI, หรือ Infrastructure as Code (IaC) ที่จัดสรรทรัพยากรได้เร็วมาก และส่งให้กับแอปพลิเคชั่นตัวเองได้อย่างรวดเร็ว ถือเป็นระบบที่พร้อมรองรับเวิร์กโหลดหลากหลาย ผ่านการทดสอบว่าให้ประสิทธิภาพแก่แอปพลิเคชั่นได้อย่างมีเสถียรภาพสูง

ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดหลังใช้ HPE GreenLake

การมีไพรเวทคลาวด์ที่เหมาะกับคุณ จะทำให้องค์กรของคุณสามารถตัดสินใจทางธุรกิจจากข้อมูลได้อย่างแท้จริง ซึ่ง CIO เองก็จะสัมผัสได้ถึงโมเดลการทำงานบนคลาวด์ที่เรียบง่ายมากขึ้น ให้การมองเห็นและข้อมูลเชิงลึก ทั้งด้านการใช้งานและค่าใช้จ่ายได้อย่างครบถ้วน ในส่วนของฝั่งทีมไอทีนั้น ก็จะจัดการทรัพยากรต่างๆ ได้ง่ายขึ้นมาก แถมอำนวยความสะดวกให้นักพัฒนาเข้าถึงเวอร์ชวลเซิร์ฟเวอร์ หรือคลัสเตอร์ Kubernetes ของตัวเองที่แยกออกมาโดยเฉพาะได้ง่ายและปลอดภัย นักพัฒนาต่างๆ จะได้ประโยชน์จากความสามารถในการเข้าถึงพื้นที่ใช้งานของตัวเอง มีความยืดหยุ่นในการเลือกใช้โอเอสและโครงสร้างคอนเทนเนอร์ที่หลากหลาย ผสานเข้ากับเครื่องมือพัฒนาของตัวเองได้ผ่านหน้าพอร์ทัล ทั้งหมดนี้มาพร้อมกับเสถียรภาพ ความเร็ว และความสามารถในการเข้าถึงอย่างสะดวกสบาย ที่เป็นผลมาจากไพรเวทคลาวด์แบบโอเพ่น ที่ทำงานผ่านทางระบบบริหารจัดการแบบอัตโนมัติด้วยความเชี่ยวชาญของเรา

กล่าวโดยสรุป

เราสามารถสรุปเหตุผลสำคัญทั้ง 5 ประการที่ทำให้คุณต้องเลือก HPE GreenLake for Private Cloud Enterprise มาใช้ในองค์กร

1. เร่งความเร็วในการทำธุรกิจ: ใช้เวลาพัฒนาโปรเจ็กต์ไอทีออกสู่ตลาดเร็วกว่าถึง 80%
2. ควบคุมค่าใช้จ่ายตามความต้องการธุรกิจได้: คาดการณ์ต้นทุนได้แม่นยำ สอดคล้องกับการเติบโตจริงทางธุรกิจ
3. ลดค่าใช้จ่ายระยะยาว: ได้ความสามารถที่ถูกต้องในเวลาที่ต้องการจริงๆ ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น จากการจัดสรรทรัพยากรที่มากเกินไป
4. แบ่งเบาภาระในแต่ละวัน: ช่วยอำนวยความสะดวกจนทำให้พนักงานคุณมีเวลาไปพัฒนาแอปพลิเคชั่นตัวเอง และผลักดันส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างรายได้ให้กับธุรกิจมากขึ้น รวมทั้งได้ทีมงานของ HPE ที่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลระบบช่วยจัดการฮาร์ดแวร์ของท่าน
5.ยกระดับประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร: ให้งานไอทีของคุณเรียบง่ายและปลอดภัยกว่าเดิม ตลอดทั่วทั้งไพรเวทคลาวด์ รวมถึงสามารถบริหารจัดการทั้งเวอร์ช่วล แมชชีน, คอนเทนเนอร์, และเครื่องแบร์-เมทัลได้จากศูนย์กลางเดียวกัน

สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ HPE GreenLake สามารถติดต่อได้ที่
บริษัท อินแกรม ไมโคร (ประเทศไทย) จํากัด
โทรศัพท์ : 02 012 2222 หรืออีเมล์ TH-HPE@ingrammicro.com