หน้าแรก Internet of Things Cryptocurrency 5 เหตุผลที่ทำให้เงินดิจิตอลไม่ปลอดภัย (จากการถูกแฮ็ก !!)

5 เหตุผลที่ทำให้เงินดิจิตอลไม่ปลอดภัย (จากการถูกแฮ็ก !!)

แบ่งปัน

รับกับกระแสเงินบิทคอยน์มูลค่าพุ่งทะลุ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นครั้งแรก ทำให้เงินดิจิตอลทั้งหลายกลายเป็นที่นิยมในการลงทุนอย่างมหาศาล รวมทั้งดึงดูดความสนใจของอาชญากรไซเบอร์อย่างมหาศาลด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะจากเหตุการณ์ปล้นวอลเล็ตสะเทือนวงการเมื่อเดือนก่อน ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมานั้น มีอาชญากรรมที่เกิดขึ้นกับเงินดิจิตอลสกุลต่างๆ ถึง 35 ครั้ง รวมมูลค่าความเสียหายมากกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ฯ

วิเคราะห์กันว่า การที่เงินดิจิตอลกลายเป็นแหล่งทำมาหากินของแฮ็กเกอร์มากขึ้นเรื่อยๆ เป็นเพราะ

Advertisement

1. ผู้ที่เก็บเงินดิจิตอลเหล่านี้มักไม่ได้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเหมือนเงินจริง,
2. ผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนเงินดิจิตอลหลายเจ้าก็ยังไม่ได้ใช้ระบบความปลอดภัยอย่างเพียงพอ,
3. การบังคับใช้กฎหมายก็ยังไม่ครอบคลุม,
4. ผู้พัฒนาแอพที่เกี่ยวข้องยังไม่สามารถยกระดับความปลอดภัย โดยเฉพาะการยืนยันตนแบบสองปัจจัย,
5. และเหตุผลที่สำคัญที่สุดคือ บริการวอลเล็ตเก็บเงินหลายเจ้ายังไม่ปลอดภัยด้วย

บริการวอลเล็ตที่ใช้เก็บเงินดิจิตอลออนไลน์ที่มีอยู่ทั่วโลกตอนนี้ ต่างใช้เทคโนโลยีในการจัดเก็บเงินหรือ Token ที่แตกต่างกัน ด้วยความสามารถที่ต้องสามารถโอนเงินข้ามสกุลไปมาได้ภายในทันทีนั้น จึงมีความเสี่ยงมากพอสมควร แม้เงินดิจิตอลอย่างบิทคอยน์จะใช้เทคโนโลยีมัลติซิกเนเจอร์ ก็ยังถือว่ามีช่องโหว่ จนบริการวอลเล็ตบางเจ้าอย่าง HaoBTC ประกาศแนะนำผู้ใช้ว่าอย่าเก็บเงินดิจิตอลทั้งหมดไว้กับบริการวอลเล็ตเจ้าเดียว

มีวอลเล็ตประเภทพิเศษที่นำมาใช้แทนบริการออนไลน์ได้ อย่าง วอลเล็ตบทเดสก์ท็อป และวอลเล็ตบนอุปกรณ์พกพา ที่เก็บข้อมูลไว้บนเครื่องของผู้ใช้ และสร้างที่อยู่คริปโตสำหรับใช้แลกเปลี่ยนได้เหมือนปกติ แต่ก็ยังเสี่ยงกับการถูกปล้นจากทูลของแฮ็กเกอร์บางอย่าง เช่น คีย์ล็อกเกอร์ได้ แต่มีวอลเล็ตแบบที่ปลอดภัยมากที่สุดคือวอลเล็ตแบบฮาร์ดแวร์ เป็นต้น

ที่มา : https://www.hackread.com/safely-store-cryptocurrency-review-5-safest-bitcoin-wallets