หน้าแรก Data Center ประกาศผล 10 อับดับซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ของโลก Frontier จาก HPE ครองตำแหน่งแชมป์!

ประกาศผล 10 อับดับซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ของโลก Frontier จาก HPE ครองตำแหน่งแชมป์!

แบ่งปัน

ประกาศออกมาเป็นทางการแล้ว สำหรับลิสต์ 10 อันดับแรกของเครื่องซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ทั่วโลกที่เร็วแรงที่สุดประจำครึ่งปีหลัง ตามรายการ TOP 500 ที่อัพเดทล่าสุดเดือนพฤศจิกายน 2565 นี้เอง ที่มีหน้าใหม่อย่าง Leonardo พุ่งขึ้นมาเป็นอันดับ 4 ด้วย

สำหรับเครื่อง Frontier ที่กลายเป็นซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับเอ็กซ่าสเกลเครื่องแรกของโลกที่เปิดตัวเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานั้น ก็ยังคงครองตำแหน่งอันดับหนึ่งที่เร็วแรงที่สุดใน TOP500 Semiannual List นี้มาโดยตลอดไม่มีใครล้มได้

Advertisement

ถ้ามองการทำงานระดับธรรมดาที่ไม่ได้เพิ่มสปีดเป็นพิเศษแล้ว ระดับ 1.102EFLOP/s ของ Frontier ก็ยังเร็วกว่าอันดับสองที่ตามมาอย่าง Fugaku ถึง 2.5 เท่า แม้ Fugaku เองจะเพิ่งถีบตัวเองขึ้นมาเป็นอันดับสองเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานี้ด้วยเหมือนกัน

อนึ่ง ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับ “Exascale” นี้ นิยามไว้ว่า เป็นเครื่องที่สามารถประมวลผลตัวเลขในระดับเลขทศนิยม 10 ยกกำลัง 18 (One Quintillion) ได้ภายในหนึ่งวินาที หรือเรียกเป็นหน่วยสเกลความเร็วว่า 1 exaFLOP/s หรือมากกว่า เป็นต้น

ส่วนเครื่องอันดับสามยังคงเป็น Lumi เจ้าเดิมที่ครองตำแหน่งมาตั้งแต่มิถุนายน แม้จะไม่ได้มีการเพิ่มความเร็วจากเดิมก็ตาม แต่ที่น่าจับตามองคือ Leonardo ที่ถีบตัวเองขึ้นมาที่อันดับ 4 ไกลมากจากที่เมื่อมิถุนายนยังเพิ่งอยู่ในอันดับ 150 ใน TOP500 เอง

กลับมาที่ Frontier ที่นอกจากขึ้นแท่นอันดับสูงสุดในแง่ของความเร็วการประมวลผลปกติแล้ว ยังครองอันดับแรงที่สุดในการทดสอบความเหมาะสมของการประมวลผลฟังก์ชั่น AI ที่รู้จักในชื่อ HPL-MxP ตามเกณฑ์ของ High Performance Linpack (HPL) ด้วย

โดยเกณฑ์ดังกล่าวใช้อธิบายว่าระบบสามารถแก้สมการเชิงเส้นที่ซับซ้อนได้ดีมากน้อยเพียงใด ทั้งนี้ รายละเอียดของซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ทำงานปกติได้เร็วที่สุด 10 อันดับแรก ตามลิสต์ของ TOP500 ล่าสุด มีดังต่อไปนี้

อันดับ 1: Frontier
เป็นระบบ HPE Cray EX ของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ใช้ซีพียู AMD EPYC™ แบบ 3rd Gen มี 8,730,112 คอร์ ที่ปรับให้เข้ากับการทำงานทั้งแบบ HPC และ AI ด้วยชิป AMD Instinct™ 250X พร้อมการเชื่อมต่อแบบ Slingshot-11 ทำความเร็วตามเกณฑ์ HPL ที่ 1.102EFLOP/s

อันดับ 2: Fugaku
ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ฟุกากุเครื่องนี้อยู่ในศูนย์ RIKEN สำหรับวิจัยด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ในเมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น ทดสอบ HPL ได้คะแนน 442.01PFLOP/s พัฒนาขึ้นบนชิป Fujitsu A64FX ที่มีถึง 7,630,848 คอร์

อันดับ 3: LUMI
LUMI เป็นระบบที่ทำงานบน HPE Cray EX ที่ศูนย์ EuroHPC ใน CSC เมือง Kajaani ประเทศฟินแลนด์ ทำความเร็วได้ที่ 151.9 PFLOP/s ใช้ชิป AMD ที่มี 2,220,288 คอร์

อันดับ 4: Leonardo
อยู่ในเมืองบอลโบย่า ประเทศอิตาลี เป็นระบบที่ใช้ชิป Intel ร่วมกับ Nvidia มีทั้งสิ้น 1,463,616 คอร์ ทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 174.70PFLOP/s

อันดับ 5: Summit
เป็นระบบของ IBM ตั้งอยู่ในศูนย์ทดลองแห่งชาติ Oak Ridge ในเทนเนสซี่ โดย Summit นี้ทำความเร็วได้ที่ 148.8 PFLOP/s ตามสเกลของ HPL มี 4,356 โหนด แต่ละโหนดมีซีพียู Power9 ที่มี 22 คอร์ 2 ตัว และจีพียู Nvidia Tesla V100 6 ตัว แต่ละตัวมีสตรีมมิ่งมัลติโปรเซสเซอร์ (SM) 80 ตัว โหนดทั้งหลายเชื่อมกันด้วยเครือข่าย Mellanox dual-rail EDR InfiniBand รวมทั้งหมดมี 2,414,592 คอร์

อันดับ 6: Sierra
94.6 PFLOP/s มี 4,320 โหนดที่ใช้ซีพียู Power9 2 ตัว และจีพียู Nvidia Tesla V100 4 ตัว รวมคอร์ทั้งหมด 1,572,480 คอร์ อยู่ที่ศูนย์ปฏิบัติการแห่งชาติ Lawrence Livermore ในแคลิฟอร์เนีย

อันดับ 7: Sunway TaihuLight
อยู่ในเมืองอู่ซี ประเทศจีน ทำความเร็ว HPL ที่ 93PFLOP/s รวม 10,649,600 คอร์

อันดับ 8: Perlmutter
ทำงานบนแพลตฟอร์ม HPE Cray Shasta มี 761,856 คอร์ ทำความเร็วได้ที่ 70.87 PFLOP/s

อันดับ 9: Selene
เป็นระบบ Nvidia DGX A100 SuperPOD ที่ใช้ชิป AMD EPYC มี 555,520 ทำความเร็วได้ที่ 63.4 PFLOP/s

อันดับ 10: Tianhe-2A (Milky Way-2A)
ใช้ซีพียู Intel Xeon ร่วมกับชิป Matrix-2000 DSP ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีป้องกันประเทศของจีนหรือ NUDT เอง มี 4,981,760 คอร์ ทำความเร็วที่ 61.4 Pflop/s

อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – NW