ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ หรือภาษาทางการคือ High Performance Computers (HPC) มักนำมาใช้ประมวลผลงานวิจัยหรือวิเคราะห์ข้อมูลปริมาณมหาศาล เช่น การจำลองภาพจักรวาล, วิเคราะห์และพยากรณ์สภาพอากาศ, ตรวจสอบสถานะความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ เป็นต้น จึงมักเห็นเครื่องเหล่านี้ตั้งอยู่ตามมหาวิทยาลัย, สถาบันวิจัยต่างๆ เป็นหลัก
ซึ่งทุกๆ สองปีนั้น ทางโครงการ TOP500 จะจัดอันดับซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มีกำลังการประมวลผลมากที่สุดในโลกโดยใช้เบนช์มาร์กแบบ Linpack โดยครั้งล่าสุดจัดขึ้นเมื่อมิถุนายนที่ผ่านมา พบว่าสองอันดับแรกเป็นของจีน ขณะที่มีเครื่องของสหรัฐฯ อยู่ในท็อปสิบถึง 5 รายการด้วยกัน ซึ่งทั้ง 10 อันดับ เรียงจากอันดับต่ำไปสูงที่สุด มีดังต่อไปนี้
• อันดับ 10 Trinity
เป็นระบบ Cray XC40 ตั้งที่ศูนย์วิจัยแห่งชาติ Los Alamos สำหรับบริหารดูแลการเก็บอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ให้ปลอดภัยและน่าเชื่อถือโดยเฉพาะ ด้วยความเร็วอยู่ที่ 8.1 Petaflop
• อันดับ 9 Mira
เป็นเครื่อง IBM BlueGene/Q ของสำนักวิจัยแห่งชาติ Argonne สังกัดกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ด้วยความเร็ว 8.59 Petaflop สำหรับวิจัยด้านปฐพีวิทยา, วัสดุศาสตร์, ประสิทธิภาพการขนส่ง, และประมวลผลด้านเคมี
• อันดับ 8 K Computer
ติดตั้งอยู่ที่สถาบันวิทยาศาสตร์การประมวลผลชั้นสูง Riken ในเมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น เคยอยู่ในอันดับหนึ่งเมื่อปี 2554 ด้วยความเร็ว 10.5 Petaflop
• อันดับ 7 Oakforest-PACS
เป็นเครื่อง Fujitsu PRIMERGYของศูนย์ความร่วมมือด้านการประมวลผลชั้นสูงของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่ศูนย์ไอทีในมหาวิทยาลัยโตเกียว วิทยาเขตคาชิว่า ถือเป็นซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดในญี่ปุ่น เพื่อใช้ในงานพัฒนาและค้นคว้าด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีเป็นหลัก มีความเร็วที่ 13.5 Petaflop
• อันดับ 6 Cori
เครื่องรุ่น Cray XC40 นี้ตั้งชื่อตาม Gerty Cori ซึ่งเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์ และเป็นผู้หญิงอเมริกันคนแรกที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ ถือเป็นศูนย์กลางพัฒนาเทคโนโลยีด้าน Big Data ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างศูนย์ประมวลผลด้านการค้นคว้าวิจัยทางวิทยาศาสตร์พลังงานของสหรัฐฯ กับ Intel และศูนย์ประมวลผลของอินเทลเองอีกกว่า 5 แห่ง มีความเร็วอยู่ที่ 14 Petaflop
• อันดับ 5 Sequoia
เป็นเครื่องจาก IBM BlueGene/Q อยู่ในศูนย์วิจัยแห่งชาติ Lawrence Livermore สังกัดกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ใช้คำนวณตัวเลขจำลองประสิทธิภาพของอาวุธนิวเคลียร์ และวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับอาวุธชั้นสูงเป็นหลัก ด้วยความเร็วถึง17.1 Petaflop
• อันดับ 4 Titan
ด้วยเครื่องรุ่น Cray XK7 ที่เคยได้อันดับ 1 เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2555 ติดตั้งอยู่ที่สำนักวิจัยแห่งชาติ Oak Ridge สังกัดกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ถูกใช้ในงานประมวลผลด้านอวกาศ โดยนำมาจำลองกาแลกซี่ทั้งหมด ซึ่งนับเป็นแบบจำลองที่ละเอียดและใหญ่มากที่สุดที่เคยมีมา เครื่องนี้มีกำลังการประมวลผลอยู่ที่ 17.5 Petaflop
• อันดับ 3 Piz Daint
ชื่อมีที่มาจากภูเขาในเทือกเขาแอลป์ที่แปลตรงตัวว่า “ยอดเขาด้านใน” แน่นอนว่าซุปเปอร์คอมพิวเตอร์เครื่องนี้ต้องอยู่ที่สวิสเซอร์แลนด์ ที่ศูนย์ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์แห่งชาติ โดยไต่ขึ้นมาจากอันดับ 8 ในการจัดอันดับครั้งก่อนเนื่องจาได้รับการอัพเกรดให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึงสามเท่า ด้วยความเร็ว 19.5 Petaflop ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ทำความเข้าใจกับพายุฤดูร้อนที่สร้างความเสียหายในยุโรปได้เป็นอย่างดี
• อันดับ 2 Tianhe-2
มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Milky Way-2 ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีด้านการป้องกันประเทศของจีน ซึ่งตั้งอยู่ที่ศูนย์ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์แห่งชาติในเมืองกวางโจว ด้วยความเร็วประมวลผลที่ 33.86 Petaflopทำให้ครองอันดับ 1 จากรายชื่อ Top500 ติดต่อกันถึง 6 สมัยตั้งแต่มิถุนายน 2556 หลังจากนั้นก็โดนรุ่นพี่ประเทศเดียวกันแซงทั้งนี้มีเรื่องกอสซิบกันว่า เป็นเพราะอเมริกาสั่งเบรกไม่ให้ Intel ส่งออกบอร์ดและซีพียูที่จะมาเพิ่มความเร็วให้กับ Tianhe-2 โดยกลัวว่าจีนจะเอาไปใช้ในการพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์ จึงไม่แปลกใจที่จีนจะหมั่นไส้พัฒนาเครื่องใหม่ของตัวเองที่เร็วที่สุดในโลกขึ้นมาแทน
• อันดับ 1 Sunway TaihuLight
ครองอันดับหนึ่งติดกันมาสองสมัยแล้ว ตั้งอยู่ที่ศูนย์ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์แห่งชาติที่เมืองอู๋ซี ประเทศจีนบรรจุคอร์ซีพียูกว่าสิบล้านตัว ทำให้สามารถจำลองภาพของจักรวาลในช่วงอายุนับหลายล้านปีได้ พร้อมทั้งสนับสนุนการค้นพบใหม่ๆ ของนักวิจัยมากมาย ด้วยความเร็วสูงถึง 93 Petaflopแต่เครื่องนี้กำลังจะกลายเป็นแค่น้ำจิ้ม เมื่อไม่นานมานี้มีรายงานว่า จีนกำลังสร้างซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่กว่า และกำลังการประมวลผลมากกว่า TaihuLight นี้มากกว่าสิบเท่า
ที่มา : https://www.networkworld.com/article/3218098/data-center/top-10-supercomputers-of-2017.html#slide1
