หน้าแรก Data Center 10 อันดับซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลก ส่วน Frontier ยังรั้งตำแหน่งอันดับหนึ่งในโลก

10 อันดับซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลก ส่วน Frontier ยังรั้งตำแหน่งอันดับหนึ่งในโลก

แบ่งปัน

สามครั้งซ้อนแล้วที่ Frontier ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ทั่วโลกที่ทำงานเร็วที่สุด และยังเป็นเครื่องเดียวในโลกที่ความเร็วพุ่งเกิน 1 exaFLOP โดยสามารถคำนวณคำตอบในรูปเลขทศนิยม (Floating Point) ได้มากถึง 1.194 ล้านล้านล้าน (Quintillion) ครั้งต่อวินาที (FLOPS) ทำให้ Frontier ทิ้งห่างคู่แข่งอันดับรองลงมามากถึงสองเท่า คำว่า Quintillion นี้มีค่าเท่ากับ 1018 หรือหนึ่ง exaFLOP (EFLOP)

ขณะที่เครื่องลำดับที่สอง Fugaku ทำความเร็วสูงสุดที่ 442.01petaFLOP ซึ่งคำว่า petaFLOP เท่ากับ 1015 FLOP

ทั้งสองอันดับแรกในลิสต์ท็อป 10 นี้ขับเคี่ยวผลักดันความเร็วเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่การจัดอันดับใหญ่ครั้งก่อนที่นับถึงตอนพฤศจิกายน 2022 จนยังไม่มีใครสามารถแข่งจนล้มอันดับได้ โดยเฉพาะอันดับ 3 ถึง 4 อย่าง LUMI และ Leonard ถึงปัจจุบัน เครื่องที่เร็วที่สุดก็ยังคงเดิมทั้งสิบอันดับ เรียงลำดับเหมือนเดิมทุกประการ

สำหรับการวัดความเร็วที่ใช้สำหรับประเมินซุปเปอร์คอมพิวเตอร์เหล่านี้เรียกว่า High Performance Linpack (HPL) Benchmark ที่วัดว่าระบบสามารถแก้ปัญหาสมการเชิงเส้นที่ซับซ้อนได้ดีแค่ไหน

มีจำนวนกว่าครึ่งในลิสต์ท็อป 10 นี้ติดตั้งใช้งานอยู่ในสหรัฐฯ อีกสองเครื่องอยู่ที่จีน ส่วนเครื่องที่เหลือมีอยู่ในฟินแลนด์ อิตาลี และญี่ปุ่น

และนอกจากจะขึ้นเป็นอันดับหนึ่งด้านความเร็วสูงสุดแล้ว Frontier ยังขึ้นแท่นอันดับหนึ่งด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนในการประมวลผลฟังก์ชั่น AI ที่วัดด้วยเกณฑ์เรียกว่า HPL-MxP อีกด้วย

โดยทั้ง Frontier และ LUMI ต่างอยู่ใน 10 อันดับแรกด้านการใช้พลังงานคุ้มค่าที่สุดเมื่อวัดในหน่วย GFLOP ต่อวัตต์ อย่าง Frontier อยู่ในอันดับ 6 ด้วยค่า 52.592GFLOP/W ขณะที่เครื่อง LUMI ตามมาติดๆ ในอันดับ 7 ที่ 51.382GFLOP/W

เครื่องที่ใช้พลังงานได้มีประสิทธิภาพมากที่สุดในโลกได้แก่ Henri ภายใต้การดูแลของสถาบัน Flatiorn ในกรุงนิวยอร์ก ทำได้ที่ 65.396 GFLOP/W

กลับมาสรุป 10 อันดับแรกเครื่องซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ทำงานไวที่สุดในลิสต์ TOP500 ประจำเดือนมิถุนายน 2023 และตำแหน่งงที่ตั้งดังต่อไปนี้

อันดับ 1: Frontier

เป็นระบบ HPE Cray EX อยู่ในสังกัดกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เครื่อง Frontier นี้ใช้ซีพียู 3rd Gen AMD EPYC™ ที่ใช้คอร์มากถึง 8,730,112 คอร์ ที่ถูกปรับแต่งสำหรับการประมวลผลประสิทธิภาพสูง (HPC) และงานด้าน AI ด้วยชิป AMD Instinct™ 250X เชื่อมต่อด้วย Slingshot-11 ให้ค่าตามการทดสอบ HPL อยู่ที่ 1.194EFLOP

อันดับ 2: Fugaku

ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์เครื่องนี้อยู่ที่ศูนย์ RIKEN ที่วิจัยด้านวิทยาศาสตร์การประมวลผลในเมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น ได้คะแนนอยู่ที่ 442.01PFLOP ในการทดสอบ HPL ทำงานบนชิป Fujitsu A64FX ที่มีถึง 7,630,848 คอร์

อันดับ 3: LUMI

LUMI เป็นเครื่อง HPE Cray EX ในศูนย์ EuroHPC ที่ดาต้าเซ็นเตอร์ CSC ในเมือง Kajaani ฟินแลนด์ มีประสิทธิภาพอยู่ที่ 309.1 PFLOP ใช้ชิป AMD ที่มีถึง 2,220,288 คอร์

อันดับ 4: Leonardo

Leonardo อยู่ในเมือง Bolbogna ประเทศอิตาลี เป็นเครื่องที่ใช้ระบบของ Intel/Nvidia มี 1,463,616 คอร์ ทำงานเร็วสุดที่ 238.7PFLOP

อันดับ 5: Summit

เป็นเครื่อง IBM ของศูนย์วิจัยแห่งชาติ Oak Ridge ในรัฐเทนเนสซี่ ได้คะแนนตามสเกล HPL ที่ 148.6FPLOP มี 4.356 โหนด แต่ละโหนดใช้ซีพียู Power9 สองตัวที่มี 22 คอร์ และจีพียู Nvidia Tesla V100 จำนวน 6 ตัว แต่ละตัวมีชิปสตรีมมิ่ง (SM) 80 ตัว โดยโหนดทั้งหมดเชื่อมต่อผ่านเครือข่าย EDR InfiniBand แบบ Dual-Rail ของ Mellanox มีทั้งหมด 2,414,592 คอร์

อันดับ 6: Sierra

ใช้สถาปัตยกรรมคล้ายกับเครื่อง Summit ได้ความเร็วสูงสุดที่ 94.64 PFLOP ประกอบด้วย 4,320 โหนด ที่แต่ละโหลดใช้ซีพียู Power9 สองตัว และจีพียู Nvidia Tesla V100 4 ตัว รวมทั้งหมด 1,572,480 คอร์ ตั้งอยู่ในศูนย์วิจัยแห่งชาติ Lawrence Livermore ในแคลิฟอร์เนีย

อันดับ 7: Sunway TaihuLight

Sunway TaihuLight เป็นเครื่องที่พัฒนาขึ้นโดยศูนย์วิจัยแห่งชาติด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์แบบคู่ขนาน (NRCPC) ในจีน ติดตั้งอยู่ในเมืองอู่ซี ได้ความเร็วจากการทดสอบ HPL ที่ 93.01PFLOP มีทั้งหมด 10,649,600 คอร์

อันดับ 8: Perlmutter

เครื่อง Perlmutter ทำงานบนแพลตฟอร์ม HPE Cray Shasta เป็นระบบแบบ Heterogeneous ที่ใช้โหนดทั้งแบบ AMD EPYC และ 1536 Nvidia A100 รวมทั้งหมด 761,856 คอร์ ได้ความเร็วสูงสุดที่ 70.87 PFLOP พัฒนาขึ้นเร็วจากปีที่แล้ว 6PFLOP/s แต่ก็ยังไม่พอที่จะล้มอันดับก่อนหน้าอย่าง Sunway TaihuLight ได้

อันดับ 9: Selene

Selene เป็นเครื่อง Nvidia DGX A100 SuperPOD ทำงานบนชิป AMD EPYC ร่วมกับ Nvidia A100 เชื่อมต่อด้วยเครือข่าย Mellanox HDR InfiniBand มีจำนวนคอร์รวม 555,520 คอร์ ได้ความเร็วสูงสุด 63.46 PFLOP ตั้งอยู่ภายในศูนย์ Nvidia เองในสหรัฐฯ

อันดับ 10: Tianhe-2A (Milky Way-2A)

ใช้ชิปทั้งซีพียู Intel Xeon และ Matrix-2000 DSP ของ NUDT เอง เครื่อง Tianhe-2A นี้มีทั้งหมด 4,981,760 คอร์ ได้ความเร็วสูงสุด 61.44 PFLOP พัฒนาขึ้นโดยมหาวิทยาลัยแห่งชาติด้านเทคโนโลยีปกป้องประเทศของจีน (NUDT) ติดตั้งอยู่ที่ศูนย์ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์แห่งชาติในเมืองกวางโจว ประเทศจีน

ต้นฉบับที่นี่ – NW