จากข้อเท็จจริงที่ว่า DNA แค่ 1 กรัม สามารถจุข้อมูลได้ปริมาณมหาศาลถึง 1,000,000,000 เทอราไบต์ ด้วยอายุการเก็บมากกว่าหนึ่งพันปี ทำให้เมื่อปีที่แล้ว ไมโครซอฟท์ได้ซื้อสาย DNA สังเคราะห์กว่าสิบล้านเส้นจากบริษัทน้องใหม่ผู้บุกเบิกการสังเคราะห์ DNA จากเมืองซานฟราน อย่าง Twist Bioscience พร้อมทั้งร่วมมือกับนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน เพื่อพัฒนาการนำ DNA มาใช้เป็นสตอเรจโดยเฉพาะ
แต่เมื่อเร็วๆ นี้เอง มีนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และ New York Genome Center (NYGC) ได้ค้นพบเทคนิคใหม่ในการจัดเก็บข้อมูลมหาศาลลง DNA ได้ โดยทดลองจุดข้อมูลได้ถึง 214 เพตาไบต์ต่อ DNA หนึ่งกรัม โดยมีทั้งหมด 6 ไฟล์ ได้แก่ ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์แบบเต็มรูปแบบ, ภาพยนตร์ฝรั่งเศลยุค 1895 ทั้งเรื่อง, ข้อมูลกิฟการ์ดของอเมซอน, ไวรัสคอมพิวเตอร์, ข้อมูลของ Pioneer Plague (อ่านเพิ่มเติมได้จาก https://en.wikipedia.org/wiki/Pioneer_plaque), รวมถึงข้อมูลผลการศึกษาของนักทฤษฎีด้านการบริหารข้อมูล Claude Shannon ที่ตีพิมพ์เมื่อปี 1948
ทีมนักวิจัยเรียกกระบวนการนี้ว่า “DNA Fountain” ซึ่งเริ่มจากการบีบอัดข้อมูลทั้งหมดให้อยู่ในรูปข้อมูลต้นแบบชุดเดียวกัน จากนั้นจึงแบ่งออกเป็นสตริงย่อยๆ ที่อยู่ในรูปเลขฐานสอง เสร็จแล้วจึงใช้อัลกอริทึมในการบรรจุสตริงที่ได้เป็นแต่ละหยดข้อมูล ที่นำไปจับคู่กับเบสนิวคลีโอไทด์ A,G, C, T ต่อไป
นักวิจัยต่างเชื่อว่า DNA เป็นสื่อบรรจุข้อมูลที่สมบูรณ์แบบ ที่จัดเก็บได้เป็นร้อยเป็นพันปีในที่เย็นและแห้ง โดยถือเป็นอุปกรณ์สตอเรจที่มีความหนาแน่นในการจุข้อมูลมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ที่มา : http://thehackernews.com/2017/03/dna-data-storage.html
